คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. เห็นชอบในหลักการการกำหนดให้ข้าวสาลีตามพิกัดอัตราศุลกากร ประเภทย่อย ๑๐๐๑.๙๙.๙๐ เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับรายละเอียดในการดำเนินการ ให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการพิจารณากำหนดแนวทางและกำกับดูแลการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเสถียรภาพข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ และพิจารณาเงื่อนไขการดำเนินงานให้สอดคล้องกับกรอบการค้าระหว่างประเทศ เพื่อมิให้ส่งผลกระทบการค้าในภาพรวม รวมทั้งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานข้าวสาลีนำเข้ามาอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้วัตถุดิบจากในประเทศเพื่อผสมสูตรอาหารสัตว์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานทดแทนการใช้ข้าวสาลี เช่น ข้อเสนอของสภาเกษตรกรแห่งชาติที่ใช้ข้าวขาวกล้องผสมกับน้ำมันรำข้าว เป็นต้น เพื่อเผยแพร่ให้คำแนะนำแก่ผู้เลี้ยงสัตว์ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
               ๒. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ข้าวสาลีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ข้าวสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย ๑๐๐๑.๙๙.๙๐ เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบร่างประกาศดังกล่าวให้เป็นไปตามรูปแบบของร่างกฎหมาย แล้วดำเนินการต่อไปได้
               ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้