ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การเตรียมการระหว่างพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช | นร04 | 19/10/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการเตรียมการระหว่างพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
๑. ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพอย่างเข้มแข็งต่อไป ทั้งในเรื่องการเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหารการกิน ที่พัก รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ๒. ในกรณีที่หน่วยงานใดประสบปัญหาเรื่องใด หรือมีเรื่องควรรายงานรัฐบาล หรือแจ้งข่าวใด ๆ ให้ติดต่อศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ซึ่งตั้งอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล โทรศัพท์หมายเลข ๑๑๑๑ ๓. ให้ดูแลรักษาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ประดิษฐานตามสถานที่ต่าง ๆ เหมือนเช่นเดิม แต่การใช้ถ้อยคำใต้พระบรมฉายาลักษณ์ที่เคยใช้มาแต่เดิม เช่น คำว่า “ทรงพระเจริญ” หรือ “ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา” ให้เปลี่ยนถ้อยคำหรือข้อความนั้นให้เหมาะสม ทั้งนี้ หากจะมีการเปลี่ยนพระบรมฉายาลักษณ์หรือติดผ้าดำขาวแสดงความไว้อาลัย การนำพระบรมฉายาลักษณ์เดิมออกและติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ใหม่ต้องกระทำโดยต่อเนื่องกันทันที โดยให้ส่วนราชการทุกแห่งถือปฏิบัติตามนี้โดยเคร่งครัด ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ไปยังหน่วยงานของไทยในต่างประเทศด้วยว่า เรื่องนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาล และโบราณราชประเพณี ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า เมื่อพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นไประยะหนึ่งแล้ว จะได้เวลาอันสมควรที่จะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๓ ต่อไป โดยคณะรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อมีมติตามรัฐธรรมนูญ ในระหว่างนี้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อนในส่วนที่จำเป็น ส่วนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นจะทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ภายในกรอบเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งไม่กระทบต่อกรอบเวลาการทำงานต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ ๕. ให้ ศตส. ร่วมกับทุกส่วนราชการเก็บรวบรวมข้อมูลการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีทั้งหมดเพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติต่อไป ๖. ให้กรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประสานขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุใช้เวลาในช่วงเวลา ๓๐ วัน (จนถึงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) เน้นการเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในแง่มุมต่าง ๆ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรูปแบบการถ่ายทอดความรู้สึกและความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจให้ดำเนินการในช่วงที่มีการเสด็จพระราชดำเนินพ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้แล้ว อาจพิจารณาเสนอรายการปกติได้ แต่ควรเน้นการให้ความรู้การพัฒนามากกว่าการบันเทิง หรืออาจพิจารณาสลับสับเปลี่ยนกับการนำเสนอผลการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแนวพระราชดำริในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเกษตร การชลประทาน การวิจัย การศึกษา การสาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นต้น เมื่อพ้นกำหนดช่วงเวลา ๓๐ วันแล้ว ขอให้สถานีวิทยุโทรทัศน์พิจารณาจัดรายการตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ ๗. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาเรียกขานเรื่องต่าง ๆ ที่เหมาะสม การแต่งกาย การปฏิบัติในเวลาเข้าถวายบังคมพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตลอดจนวิธีแสดงความจำนงขอมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวาย ๘. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนด้านการจราจร การถวายอารักขา และการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะวันเสด็จพระราชดำเนิน และวันเวลาภายหลังจากที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพได้ ๙. ให้กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุโดยขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และให้ส่วนราชการอื่น ๆ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไปด้วย ๑๐. ให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลและจัดเตรียมการต้อนรับกรณีที่มีพระประมุข ประมุข และพระราชวงศ์ หรือผู้นำแห่งรัฐต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยเนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีดังกล่าว ๑๑. ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะรัฐมนตรีและประชาชน ๑๒. ให้กระทรวงมหาดไทยให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความเข้าใจและพร้อมที่จะชี้แจงแก่ประชาชนในพื้นที่ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป ๑๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และกระทรวงการคลังชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อนักท่องเที่ยวหรือธุรกิจการท่องเที่ยวในภาพรวม ๑๔. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันระมัดระวังการเผยแพร่ภาพหรือข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือยุยงให้เกิดความแตกแยก และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าได้แพร่ภาพหรือข้อความดังกล่าวเป็นอันขาด เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ๑๕. การจัดงานรื่นเริงบันเทิงต่าง ๆ ในช่วงเวลา ๓๐ วันแรกนับแต่วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ ให้ผู้จัดพิจารณาตามความเหมาะสม โดยงดเฉพาะส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี แต่ยังสามารถจัดงานประชุม งานมงคลสมรส กฐิน งานลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศลหรือศาสนกิจตามประเพณีได้ การเลี้ยงหรือชุมนุมสังสรรค์หรือการแสดงทางวัฒนธรรมที่ทำในอาคาร และเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มตามที่จัดเป็นปกติหรือได้เตรียมการไว้แล้ว เช่น การต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือผู้เข้าร่วมประชุม ให้จัดได้ตามความเหมาะสม โดยถือความเหมาะสมและความรู้สึกของประชาชนเป็นหลัก
|
.....