ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การทบทวนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2559/60 ด้านการตลาด | พณ | 11/10/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการทบทวนโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ โดยให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ เห็นควรคงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก โดยจ่ายค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกเมื่อมีการไถ่ถอนหลังจากเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๙ ๑.๒ การขอทบทวนการระบายข้าวเปลือก ในกรณีที่เกิดภาระส่วนต่างระหว่างราคาที่โครงการกำหนดในการให้สินเชื่อกับราคาที่ขายได้จากการระบาย ทำให้มีภาระขาดทุนจากการดำเนินโครงการ โดยขอให้รัฐบาลชดเชยภาระขาดทุนที่เกิดขึ้นแทนผู้เข้าร่วมโครงการนั้น ข้อกำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตันข้าวเปลือกเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ ๙๐ ของราคาตลาด จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรชำระคืนสินเชื่อผ่านการไถ่ถอนข้าวเปลือกหลังจากเข้าร่วมโครงการ ทำให้ภาระขาดทุนของโครงการลดลง อย่างไรก็ดี กรณีที่ราคาตลาดปรับตัวลดลง อาจทำให้ภาระขาดทุนของโครงการสูงขึ้น เห็นควรให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริหารวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละรายให้สอดคล้องกับร้อยละ ๙๐ ของราคาตลาด ณ ช่วงเวลานั้น ๆ หรือบริหารจัดการให้วงเงินสินเชื่อที่ปล่อยกู้ต่ำกว่ามูลค่าของข้าวเปลือกที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ณ เวลานั้น ๆ อันจะเป็นการป้องกันการเกิดผลขาดทุนของโครงการและลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการชดเชยภาระขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ๒. เห็นชอบการทบทวนโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ในส่วนของอัตราการชดเชยดอกเบี้ย โดยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเฉพาะที่เป็นสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยไม่รวมโรงสี ได้รับชดเชยดอกเบี้ยในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๓ เป็นร้อยละ ๔ เพื่อเก็บสต็อกข้าวตั้งแต่วันที่ ๙๑-๑๘๐ วัน นับแต่วันที่เบิกจ่ายหรือออกตั๋วสัญญาใช้เงิน เพื่อเป็นการสร้างมาตรการจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวซึ่งเป็นสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ในการเก็บสต็อกข้าวเป็นเวลานานขึ้น อันจะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการเกินกรอบเป้าหมายและวงเงินที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีกระบวนการติดตามการดำเนินโครงการและระบบป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้เกิดภาระทางคลังน้อยที่สุด และควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มเติมอย่างทั่วถึง รวมทั้งควรคัดเลือกกลุ่มที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ เช่น มีสถานที่เก็บรักษาข้าวเปลือกที่มีมาตรฐาน ไม่เกิดการรั่วไหลหรือข้าวเปลือกเสื่อมคุณภาพก่อนเวลาอันควร เป็นต้น ตลอดจนพิจารณาผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนและเตรียมความพร้อม หากเกิดกรณีภาระขาดทุนจากการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบควรให้ความสำคัญกับการติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าได้มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรอย่างแท้จริง นอกเหนือจากการตรวจสอบสต็อกข้าวทุกเดือน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....