ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การเสนอตราสารขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยประชุมที่ 99 - 104 | รง | 07/06/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยประชุมที่ ๙๙-๑๐๑ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๕) และสมัยประชุมที่ ๑๐๓-๑๐๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘) ซึ่งมีพิธีสารและข้อแนะได้รับการรับรองจากที่ประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ จำนวน ๗ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยคนงานทำงานในบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ (๒) พิธีสารเพื่อเป็นส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ (๓) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๐ ว่าด้วยเอชไอวี/เอดส์ และโลกแห่งการทำงาน ค.ศ. ๒๐๑๐ (๔) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๑ ว่าด้วยคนงานทำงานในบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ (๕) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๒ ว่าด้วยพื้นฐานความคุ้มครองทางสังคม ค.ศ. ๒๐๑๒ (๖) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๓ ว่าด้วยมาตรการส่วนเสริมสำหรับการปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ค.ศ. ๒๐๑๔ และ (๗) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๔ ว่าด้วยการปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจนอกระบบเป็นในระบบ ค.ศ.๒๐๑๕ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาหลักการภายใต้ตราสารทั้ง ๗ ฉบับ และนำมาปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้อง เพื่อแสดงถึงความตั้งใจจริงของไทยในการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน และลดแรงกดดันจากการถูกโจมตีจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้แรงงานในอุตสาหกรรมประมง และการให้ความคุ้มครองแรงงานทำงานในบ้าน ดังนั้น ไทยอาจพิจารณาให้ความสำคัญกับตราสารที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านี้เป็นอันดับแรก ได้แก่ (๑) พิธีสารเพื่อเป็นส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ (๒) ข้อแนะฉบับที่ ๒๐๓ ว่าด้วยมาตรการส่วนเสริมสำหรับการปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ค.ศ. ๒๐๑๔ และ (๓) อนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยคนงานทำงานในบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ ตามลำดับ และเมื่อไทยมีความพร้อมก็อาจพิจารณาให้สัตยาบันตราสารดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. สำหรับอนุสัญญาฉบับที่ ๑๘๙ ว่าด้วยคนงานทำงานในบ้าน ค.ศ. ๒๐๑๑ และพิธีสารเสริมอนุสัญญาฉบับที่ ๒๙ ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. ๑๙๓๐ ให้กระทรวงแรงงานไปพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป เกี่ยวกับเนื้อหาของอนุสัญญาเป็นการกำหนดหน้าที่ให้ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติ และใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ จึงเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และหากกระทรวงแรงงานยืนยันได้ว่าต้องมีการออกกฎหมายเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามอนุสัญญาดังกล่าว ก็จะเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องเสนอขอความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ดังนั้น การเสนออนุสัญญาดังกล่าวต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าวด้วย |
.....