ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 29/03/2559 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการตรวจพิจารณาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ ที่ได้มีการลงนามไปแล้ว หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขหรือจัดทำบันทึกความเข้าใจขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนได้หารือร่วมกัน ให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการบ่มเพาะและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมทั้งที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยเยาวชนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการแปลงนวัตกรรมให้เป็นสินค้าออกสู่ท้องตลาด โดยใช้กลไกประชารัฐที่มีภาคเอกชนมาร่วมดำเนินการ เช่น การจับคู่ธุรกิจกับเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ การกำหนดมาตรการสนับสนุนผู้เริ่มทำธุรกิจ (New Start-up) โดยอาจพิจารณานำรูปแบบการส่งเสริมนวัตกรรมของประเทศเกาหลีใต้มาปรับใช้ในประเทศไทย ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้ทุกกระทรวงจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการเสนอร่างกฎหมายใหม่ การแก้ไขกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการดำเนินการในภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ต่อการปฏิรูปและการบริหารราชการแผ่นดินตาม Road Map โดยจำแนกให้ชัดว่า เรื่องใดสามารถจัดทำเป็นกฎหมาย หรือเรื่องใดมีความจำเป็นต้องใช้อำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ทั้งนี้ ให้ทุกกระทรวงนำเสนอให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาภายในวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙ เพื่อดำเนินการรวบรวมเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กลั่นกรองก่อนดำเนินการต่อไป ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้ทุกส่วนราชการที่จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการที่มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ขับเคลื่อนและติดตามงานที่สำคัญในเรื่องต่าง ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ควรกำหนดคุณสมบัติในเรื่องอายุของกรรมการไว้ให้มีความเหมาะสมด้วย เช่น ควรมีอายุไม่เกิน ๗๐ ปีบริบูรณ์ ๓.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดประเด็นการขับเคลื่อนการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่เหลือของการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบการบูรณาการในแต่ละประเด็นนั้น ในการดำเนินการดังกล่าวให้คำนึงถึงความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ เช่น ความเหมาะสมตามมิติเชิงพื้นที่ในระดับต่าง ๆ (ท้องถิ่น ภูมิภาค จังหวัด กลุ่มจังหวัด ประเทศ) ความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐ (ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ประชาชน) แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓.๓ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจัดทำข้อมูลสรุปผลการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการเตรียมการรองรับฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ เช่น ปริมาณน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำ ปริมาณน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓.๔ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงกลาโหม (กองทัพอากาศ) จัดทำแผนการผลิตนักบินให้สอดรับกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการบินทั้งในและระหว่างประเทศ โดยพิจารณาร่วมกับสถาบันด้านการบินของทั้งภาครัฐ กองทัพอากาศ และภาคเอกชน ทั้งนี้ ให้เร่งรัดการดำเนินการผลิตนักบินให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๕๙ นี้ ๓.๕ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ (ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากต่างประเทศเสนอค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่ายในรูปแบบซื้อบริการนำเที่ยวเสริมและนำเที่ยวในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน) และปัญหาการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยให้คนไทยเป็นตัวแทน (nominee) เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินภายในประเทศในภาคการท่องเที่ยวมากขึ้นและไม่ให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยเสียหาย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน ๓ เดือน รวมทั้งกำกับดูแลราคาของบริการนำเที่ยวให้มีมาตรฐาน ไม่สูงเกินความเป็นจริง ๓.๖ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการปราบปราม และพิจารณาให้มีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันไม่ให้มีการแสดงที่เข้าข่ายลามกอนาจารในที่สาธารณะเพื่อใช้ในการโฆษณาหรือเชิญชวนให้ประชาชนเข้าชมการจัดแสดงสินค้า โดยให้ดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน ๓ เดือน ๓.๗ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเกี่ยวกับการจัดทำข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปตำรวจ โดยให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้น ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการจัดทำแผนการปฏิรูปตำรวจโดยให้ครอบคลุมเรื่องอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน การกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) ด้วย และเสนอแผนดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๙
|
.....