ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ [ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร] | กค | 29/03/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๑.๑.๑ กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็น (๑) ค่าอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม (๒) ค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบกิจการนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ (๓) ค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการและชำระค่าสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๙ ถึง ๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ๑.๑.๒ กำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา ๘๖/๔ แห่งประมวลรัษฎากร โดยการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ๑.๒ อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าบริการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และค่าที่พักในโรงแรมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในระยะ ๑-๒ ปีต่อจากนี้ไปกระทรวงการคลังควรเร่งดำเนินการขยายฐานภาษีโดยอาจพิจารณาใช้มาตรการจูงใจผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีเพิ่มเติมจากที่ดำเนินการส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีบัญชีเดียว และความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาควบคุมราคาสินค้าให้เหมาะสม และจัดให้มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบกิจการและประชาชนทราบสาระสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการดังกล่าวโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....