ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. .... | รง | 29/03/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานและป้องกันมิให้มีการลักลอบการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
๑. ข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ๑.๑ การตราเป็นพระราชกำหนดต้องเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน จึงควรพิจารณาความเหมาะสมของรูปแบบในการตรากฎหมายด้วย ๑.๒ ร่างมาตรา ๘ เป็นการให้อำนาจอย่างกว้างขวางในการยกเว้นการไม่ปฏิบัติตามพระราชกำหนดนี้และกฎหมายอื่นอีก ๕ ฉบับ จึงควรกำหนดความชัดเจนว่ากรณีใดเป็นกรณีพิเศษเฉพาะเรื่องที่จะยกเว้นการไม่ปฏิบัติตามพระราชกำหนดนี้และกฎหมายอื่นด้วย ๑.๓ ควรพิจารณาถึงความซ้ำซ้อนของกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น กฎหมายว่าด้วยการจัดหางานและคุ้มครองคนหางานและกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว ๑.๔ หากมีประเด็นใดที่มีความจำเป็นรีบด่วนควรใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อดำเนินการไปพลางก่อนได้ ๒. ความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่า การกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศ ต้องมีทุนเป็นของผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนทุนทั้งหมด ตามมาตรา ๑๑ ของร่างพระราชกำหนดฯ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีและแนวทางการเปิดเสรีการค้าบริการของไทยภายใต้กรอบอาเซียน และ FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (RCEP) โดยพันธกรณีของไทยที่ได้ผูกพันไว้แล้ว ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการบริการของอาเซียน เปิดให้ต่างชาติถือหุ้นได้ถึงร้อยละ ๔๙ ซึ่งพันธกรณีดังกล่าวของไทย ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจากรัฐสภาแล้ว เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ทั้งนี้ ในการเปิดเสรีการค้าบริการในอาเซียน และ FTA ในอนาคต ไทยมีแนวโน้มที่จะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่ต้องเปิดให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากกว่าร้อยละ ๔๙ |
.....