ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิกของไทยในองค์กรความร่วมมือด้านไม้ไผ่และหวายระหว่างประเทศ (International Network for Bamboo and Rattan - INBAR) | ทส | 06/10/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของไทยในองค์กรความร่วมมือด้านไม้ไผ่และหวายระหว่างประเทศ (International Network for Bamboo and Rattan-INBAR) โดยให้กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ๑.๒ อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการตามกระบวนการภาคยานุวัติหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงในการจัดตั้งองค์กรความร่วมมือด้านไม้ไผ่และหวายระหว่างประเทศ (Agreement on the Establishment of the International Network for Bamboo and Rattan-INBAR) จากคณะมนตรี (Council) ของ INBAR ๑.๓ เห็นชอบในหลักการการจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุน/สนับสนุนรายปีให้แก่กรมป่าไม้ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกปีละ ๒๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ ๘๒๕,๐๐๐ บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน) ตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกฯ โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ๒. ในส่วนของค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าสมาชิกรายปี ให้กรมป่าไม้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าหากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันได้ว่า ในชั้นการภาคยานุวัติความตกลงฯ ไม่มีความจำเป็นต้องให้สถานะทางกฎหมายหรือเอกสิทธิ์และความคุ้มกันแก่ INBAR หรือเจ้าหน้าที่ของ INBAR กรณีจะไม่จำต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา อีกทั้งไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาประเภทอื่นตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จึงไม่ต้องได้รับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อย่างไรก็ดี เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมกับการจัดการทรัพยากรไม้ไผ่และหวายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงประโยชน์ที่ทางราชการและภาคประชาชนจะได้รับจากการเป็นสมาชิกในองค์กรดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบุคคลผู้บริโภคและผู้ผลิตไผ่และหวายในประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้เกษตรกรมีการปลูกต้นไผ่และหวายในพื้นที่ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรมีรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่นให้ดีขึ้นต่อไป |
.....