ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/09/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร เช่น การช่วยเหลือด้านการขนส่งสินค้าทางการเกษตรไปยังตลาดในราคาย่อมเยา การจัดจำหน่ายสินค้าผ่านสหกรณ์และตลาดชุมชน ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ประชาสัมพันธ์ราคากลางของสินค้าอุปโภคและบริโภคให้ประชาชนรับทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมาย โดยประสานความร่วมมือกับต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน ๑ เดือน แล้วรายงานให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ) พิจารณาดำเนินการต่อไป ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (๗ เมษายน ๒๕๕๘) ที่ให้พิจารณาเสนอแนวทางการทำประมงในเขตแดนของภูมิภาคอาเซียนทั้ง ๑๐ ประเทศ ว่าควรแบ่งเขตแดนอย่างไร สามารถทำประมงข้ามเขตได้หรือไม่ อย่างไร และให้การสนับสนุนด้านเครื่องมือในการทำประมง รวมทั้งให้เร่งดำเนินการเพิ่มแหล่งการทำประมงในเขตประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล เช่น บรูไนดารุสซาลาม กินี ต่อไปด้วย ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการรณรงค์สร้างจิตสำนึกความเป็นไทยให้เกิดขึ้นในสังคม และให้นำเอกลักษณ์ไทยไปเผยแพร่ในโอกาสต่าง ๆ รวมทั้งกำหนดรูปแบบเครื่องแต่งกายสำหรับรัฐมนตรีและคู่สมรสเพื่อใช้ในโอกาสงานพิธีการรับรองแขกต่างประเทศและการเยือนต่างประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศ ๒.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการเกี่ยวกับการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อให้ไม่กระทบต่อนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ เช่น ให้นักเรียนที่ศึกษาอยู่จบการศึกษาก่อน ไม่รับนักเรียนเพิ่มเติม ๓. ด้านการต่างประเทศ ให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำข้อมูลสำหรับนายกรัฐมนตรีใช้ประกอบในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในช่วงปลายเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ณ สหรัฐอเมริกา โดยส่งให้กระทรวงการต่างประเทศบูรณาการข้อมูลเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๔. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๔.๑ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด โดยให้กำชับผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ไม่ปล่อยปละละเลย เพื่อมิให้เกิดการค้ามนุษย์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หากพบมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในพื้นที่ใด ให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้นำคดีที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย ๔.๒ ให้กระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง และกระทรวงพาณิชย์เร่งรัดกระบวนการพิจารณากรณีทุจริตโครงการจำนำข้าวให้สามารถนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมภายในสิ้นปี ๒๕๕๘ นี้ โดยให้รายงานรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาก่อนดำเนินการ นอกจากนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และกระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลให้ออกสู่ตลาดโดยเร็ว โดยยึดหลักสุจริตและโปร่งใส และไม่กระทบต่อราคาตลาดข้าวในปัจจุบัน ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘) เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ แล้ว นั้น ให้ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๕.๑.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประสานงานกับประเทศในอาเซียนเพื่อให้มีความร่วมมือกันเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย ๕.๑.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มวงเงินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในส่วนของรัฐบาล ๕.๑.๓ ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ๕.๑.๔ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ๕.๑.๕ ให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำสื่อเกี่ยวกับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ๕.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดหาพื้นที่กักเก็บน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำระหว่างประเทศเพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงในการส่งน้ำจากแหล่งน้ำระหว่างประเทศมาใช้ภายในประเทศ ๕.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยพิจารณาผ่อนผันให้ชาวสวนยางสามารถประกอบอาชีพในพื้นที่ที่ชาวสวนยางได้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเพาะปลูกยางสามารถประกอบอาชีพในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปได้อีกระยะหนึ่งจนกว่าจะหาพื้นที่ทำกินใหม่ทดแทนได้ และให้สร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าควบคู่กับการแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ๕.๖ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์ไฟไหม้บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันในหลายจังหวัดของภาคใต้อย่างต่อเนื่องและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งประสานสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันร่วมกันด้วย ๕.๗ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยปละละเลยให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ๕.๘ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) เร่งตรวจสอบความมั่นคงของสิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมทั้งระบบสัญญาณเตือนภัยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์วาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ๕.๙ ให้ทุกส่วนราชการติดตามตรวจสอบและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมหรือผ่านช่องทางตามสื่อต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละส่วนราชการ ๕.๑๐ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงแบบฟอร์มและเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการติดต่อราชการให้ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน
|
.....