ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 21/07/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงานร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารเงินกองทุนประกันสังคมเพื่อนำมาลงทุนในกองทุนตามนโยบายรัฐบาลที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสูง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนอื่น ๆ ที่จะจัดตั้งในอนาคต เช่น กองทุนด้านสาธารณสุข กองทุนด้านการศึกษา (โรงเรียนนานาชาติ) เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายพัฒนาที่สำคัญของรัฐบาล และขณะเดียวกันกองทุนประกันสังคมก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงด้วย ๒. ด้านการต่างประเทศ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามความตกลงที่ได้จัดทำไว้กับประเทศต่าง ๆ โดยเร็ว โดยเฉพาะแผนการส่งเสริมการค้าข้าวและยางพารากับสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหพันธรัฐรัสเซีย ๓. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) และกระทรวงพลังงานทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ ๒๑ โดยให้เชิญคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ และพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฏิรูปแห่งชาติ และกลุ่มผู้มีความเห็นต่าง ร่วมรับฟังความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ ตลอดจนให้ศึกษาประเด็นข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทยด้วย ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ตามมติคณะรัฐมนตรี (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘) โดยด่วนต่อไป ๔.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘) เกี่ยวกับการปรับปรุงพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มพื้นที่จอดรถสาธารณะในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ของสวนสาธารณะต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครให้เหมาะสมต่อการใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมสันทนาการของประชาชน โดยหารือร่วมกับส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กรุงเทพมหานคร พิจารณาจัดทำเป็นสวนพฤกษศาสตร์ประเภทต่าง ๆ เช่น สวนกล้วยไม้ สวนสมุนไพร โดยให้คำนึงถึงการออกแบบการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้เหมาะสมและคุ้มค่าด้วย ๔.๓ ตามที่ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และมีการเปิดตัวคู่มือสำหรับประชาชนและเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th) ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ นั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเผยแพร่คู่มือดังกล่าวให้ทุกส่วนราชการ ศูนย์ดำรงธรรม และสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ และให้ทุกส่วนราชการกำชับให้เจ้าหน้าที่ศึกษาและดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติและคู่มือดังกล่าวด้วย ๔.๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการจัดสรรที่ดินเพื่อจัดแปลงอพยพให้แก่ราษฎรที่ต้องย้ายออกจากเขตน้ำท่วมหรือจ่ายเงินค่าชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรแปลงอพยพ นั้น เนื่องจากในขณะนี้มีหลายโครงการที่ยังไม่สามารถจ่ายเงินค่าชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรแปลงอพยพให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบได้ครบถ้วน เช่น โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปราจีนบุรี จึงให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย ๔.๕ ให้กระทรวงแรงงานจัดทำแนวทางการให้ความช่วยเหลือแรงงานทั้งในและนอกระบบโดยคำนึงถึงความเหมาะสมของแรงงานแต่ละกลุ่ม ได้แก่ แรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ แรงงานไทยที่ทำงานในประเทศ แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และครอบครัวของแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการนำแรงงานจากต่างประเทศในสาขาที่ไทยขาดแคลนมาทำงานในประเทศ เช่น แรงงานประมงจากประเทศเวียดนามและกัมพูชา ๔.๖ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำผลงานนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่ได้รับการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการผลิตเครื่องจักรทางการเกษตร เช่น รถไถนา รถเก็บเกี่ยว มาจัดแสดง ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้เลือกซื้อเครื่องจักรที่เป็นนวัตกรรมของไทยที่ตรงกับความต้องการและได้เลือกนวัตกรรมที่มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ SMEs ที่สนใจอีกด้วย ๔.๗ ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันจัดกิจกรรมให้แก่กลุ่มอาสาสมัคร เช่น ลูกเสือชาวบ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในทุกจังหวัดเพื่อส่งเสริมบทบาทของกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้ในการพัฒนาสังคมและสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในการดูแลและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อไป
|
.....