ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 02/06/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และหน่วยงานด้านความมั่นคงจัดเตรียมมาตรการรองรับหากเกิดกรณีที่บริการขนส่งสาธารณะหยุดชะงักหรือไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากกรณีการนัดหยุดงานของผู้ทำหน้าที่ให้บริการเหล่านั้น โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแทนเพื่อรองรับหากเกิดกรณีดังกล่าว ๒. ด้านการต่างประเทศ ให้ทุกส่วนราชการกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะต่อไป โดยคำนึงถึงกลุ่มประเทศเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศกัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม (CLMV) กลุ่มประเทศภายใต้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) กลุ่มประเทศภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) และประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ นอกจากนี้ ให้เตรียมมาตรการรองรับการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศอันเนื่องมาจากการดำเนินการของไทยที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ๓. ด้านเศรษฐกิจ ๓.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการดำเนินการจัดหาสถานที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกในทุกจังหวัด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโรงงานขนาดเล็กผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่มีต้นทุนต่ำเพื่อจัดจำหน่ายให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายใน ๑ เดือน ๓.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการสร้างความเข้มแข็งด้านพลังงานทดแทนของประเทศ โดยให้สำรวจพืชพลังงานที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการเพาะปลูกและนำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรมีการเพาะปลูกพืชพลังงานดังกล่าวทดแทนการปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม โดยต้องยึดหลักความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำในอนาคตด้วย ๓.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาเกลือทะเลตกต่ำ รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไปด้วย ๓.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้มีความสมดุลระหว่างกัน ทั้งนี้ เพื่อไม่เกิดการเสียดุลการค้าระหว่างประเทศ ๓.๕ ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะชั้นสูงขึ้นเพื่อรองรับตลาดแรงงานไทยที่มีศักยภาพสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ การพัฒนาในพื้นที่ และความต้องการของภาคธุรกิจ ๓.๖ ให้กระทรวงพลังงานศึกษาความเป็นไปได้และพิจารณาเตรียมแนวทางการบริหารจัดการสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุลงแล้ว ในกรณีที่รัฐจะเป็นผู้ดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวแทนเอกชนรายเดิมต่อไป ๔. ด้านสังคม ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ศึกษาแนวทางการปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ยังจำหน่ายไม่หมดของบริษัทเอกชน เพื่อนำมาดำเนินการกับที่อยู่อาศัยในโครงการของรัฐ เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ยังจำหน่ายไม่หมด โดยปรับปรุงเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในราคาต่ำ ๕. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าให้มีมาตรการลงโทษที่เข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้สัญจรบนทางเท้า ๖. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๖.๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์จากไม้ยางพาราในพื้นที่ซึ่งชาวสวนยางได้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเพาะปลูกทั้งที่ตัดแล้วและส่วนที่เหลืออยู่ รวมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเดิมเคยมีอาชีพกรีดยาง นอกจากนี้ ให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ศึกษาความเป็นไปได้และพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์จากไม้ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วด้วย ๖.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการฟื้นฟูป่าชายเลน โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดทำแผนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องประเภทนโยบาย แผนงาน โครงการต่อคณะรัฐมนตรี) และนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้พิจารณาเสนอแนวทางตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ๖.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดทำข้อมูลโครงสร้างระบบราชการที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างส่วนราชการ คณะกรรมการ และกองทุนต่าง ๆ พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการปรับโครงสร้างระบบราชการ คณะกรรมการ และกองทุนต่าง ๆ โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรีภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ๖.๔ ให้กระทรวงคมนาคมสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ถนน เป็นต้น ให้ประชาชนได้รับทราบถึงความเป็นมาของโครงการ เส้นทางที่จะดำเนินการ และการร่วมลงทุนกับประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสร้างความโปร่งใสในการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ ในการเจรจาร่วมลงทุนดังกล่าวควรกำหนดเงื่อนไขในการจัดตั้งศูนย์ซ่อมและศูนย์การเรียนรู้ในประเทศไทยเพื่อพัฒนาบุคลากรไทยให้มีศักยภาพ
|
.....