ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 26/05/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนภาคธุรกิจ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ในการผลิตสินค้าไทยที่มีคุณภาพสำหรับนำไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน และผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและราคาประหยัดสำหรับคนไทย รวมทั้งสนับสนุน SMEs ให้มีความเข้มแข็งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันกำหนดแนวทางและกลไกเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดใหญ่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลธุรกิจขนาดเล็ก เช่น กลุ่มธุรกิจช่วยเหลือเรื่องปัจจัยการผลิตและลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรรายย่อย และการรับซื้อผลผลิตเกษตรกรรายย่อยผ่านการดำเนินธุรกิจการเกษตรแบบมีสัญญา (Contract Farming) โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ชายแดน ๑.๓ ให้กระทรวงคมนาคมเสนอแผนการดำเนินงานการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๙) ตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ๑.๔ ให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำข้อมูลสถิติการส่งออกสมุนไพรไทย และการนำเข้าสมุนไพรแปรรูปจากต่างประเทศ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาและแปรรูปสมุนไพรไทยให้เป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงขึ้น รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการเพาะปลูกพืชสมุนไพรตามความต้องการของตลาดในอนาคต ๑.๕ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับบัญชีครัวเรือนและสนับสนุนให้ประชาชนจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการใช้จ่ายของแต่ละครอบครัวตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพึ่งตนเอง รู้จักความพอประมาณ และไม่ประมาท ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘ เกี่ยวกับการกำหนดหลักสูตรการสอนทุกระดับให้มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๒.๒ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับบริการสาธารณสุข โดยให้ประชาชนที่สมัครใจมีทางเลือกในการจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อรับการบริการที่ดีขึ้น เพื่อนำเงินดังกล่าวมาสนับสนุนการให้บริการประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยให้เร่งพิจารณาแนวทางดังกล่าวและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๓. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๓.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาจัดทำกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการในการดูแลช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนศิลปินแห่งชาติ ๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาออกกฎหมายหรือกฎระเบียบในการกำหนดพื้นที่ก่อสร้างอาคารเพื่อการวางผังเมืองที่เหมาะสม ไม่ให้มีสิ่งก่อสร้างที่ขวางทางน้ำไหลหรือพื้นที่ระบายน้ำตามธรรมชาติ โดยควรออกแบบอาคารที่มีคุณลักษณะเหมาะสมและอิงรูปลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย มีรูปทรงที่แสดงประวัติหรือเอกลักษณ์ไทย ๓.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกันพิจารณาออกกฎหมายหรือระเบียบในการกำหนดสัดส่วนและวัสดุประเภทไม้จริงที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอีกทางหนึ่ง ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเร่งรัดกำหนดแนวทางรองรับน้ำฝนที่ตกลงมานอกพื้นที่เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และวางแผนการส่งน้ำให้แก่ประชาชนรอบ ๆ แหล่งน้ำให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง โดยประสานการดำเนินการกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการขุดแหล่งน้ำของตนเอง และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบปริมาณน้ำฝนที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าในปีนี้จะมีปริมาณน้อย อาจทำให้การทำเกษตรกรรมนอกเขตชลประทานประสบภาวะขาดแคลนน้ำได้ ๔.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดเตรียมข้อมูลเพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เกี่ยวกับงานการพัฒนาดิน ในการประชุมนานาชาติเพื่อกิจกรรมปีดินสากล (International Soil Conference) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ รวมทั้งจัดให้มีการหารือในหัวข้ออื่น ๆ เช่น การอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำ ผืนป่า ดิน และปุ๋ย เพื่อให้ครอบคลุมทุกปัจจัยในการเพาะปลูก ๔.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำระหว่างประเทศ เช่น แม่น้ำสาละวิน โดยเตรียมกำหนดเส้นทางการส่งน้ำจากแหล่งน้ำระหว่างประเทศดังกล่าวไปยังแหล่งกักเก็บน้ำภายในประเทศ รวมทั้งจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ เช่น พื้นที่ที่สามารถใช้น้ำ ระยะเวลาในการใช้น้ำ เป็นต้น และให้นำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ทราบด้วย ๔.๔ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รับไปดำเนินการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยหาแนวทางในการพลิกฟื้นผืนป่าบริเวณภูเขาที่ถูกบุกรุกทำลาย (เขาหัวโล้น) โดยให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนร่วมดูแลพื้นที่ดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๕๘ ๔.๕ ให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operations) มากขึ้น โดยเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ (press release) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานซึ่งประชาชนให้ความสนใจ หรือประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และส่งข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าวให้สื่อมวลชนเผยแพร่เป็นประจำทุกวัน ๔.๖ ให้รัฐมนตรีกำกับให้หน่วยงานในความรับผิดชอบมีการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล และ Road Map ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับในสังกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และให้นำเรื่องความเข้าใจในนโยบายข้างต้นไปใช้เป็นตัวชี้วัดร่วมกับตัวชี้วัดการประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยนำไปประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้ายได้ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ๔.๗ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือกรณีข้าราชการพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อันตราย ว่าสมควรจะให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับข้าราชการตำรวจ/ทหาร อย่างไร เช่น สิทธิการได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณ สิทธิเกี่ยวกับการได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) เป็นต้น ๔.๘ ให้ทุกหน่วยงานพิจารณาให้การสนับสนุนภาคเอกชนที่เข้าร่วมจัดงานหรือกิจกรรมที่สนับสนุนภารกิจของภาครัฐหรือเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยอาจจะสนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน หรือการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ภาคเอกชนให้ความร่วมมือในการดำเนินงานกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
|
.....