ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 28/04/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาปรับปรุงการจัดทำประมาณการผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศให้ตรงกับข้อเท็จจริงมากขึ้น เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการปริมาณน้ำมันปาล์มของประเทศได้อย่างถูกต้อง โดยให้ประสานการทำงานในเรื่องดังกล่าวร่วมกันอย่างใกล้ชิด ๑.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยเพื่อนำมากำหนดแนวทางการดูแลความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนว่า ฐานข้อมูลดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดนโยบายและมาตรการช่วยเหลือประชาชนได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยไม่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีแต่อย่างใด ๑.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ ให้สำนักงาน ก.พ. กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินการเยียวยาให้ข้าราชการในหน่วยงานตนได้รับเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งที่เหมาะสมและเป็นธรรม ตลอดจนให้สำนักงาน ก.พ. พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างองค์กร อัตราเงินเดือน และระบบค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐทั้งระบบครอบคลุมทุกหน่วยงานให้มีอัตราที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต และให้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติพิจารณาในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๓.๑ ให้สำนักงาน ก.พ. กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งพิจารณานำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการเยียวยาข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนในช่วงที่ผ่านมา ๑.๓.๒ ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ ด้วย ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๒.๑ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๒.๑.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการเพื่อให้ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจดำเนินการหลัก โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ๒.๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งพิจารณาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้ครอบคลุมการจดทะเบียนเรือ การติดตั้งระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) และการตรวจสอบย้อนกลับ และสนับสนุนการทำงานของคณะทำงานเฉพาะกิจอย่างบูรณาการ และให้เป็นไปตามหลักสากล ซึ่งหากกฎหมายดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อาจจะพิจารณาดำเนินการโดยตราเป็นพระราชกำหนดได้ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน ๒.๒ เนื่องจากขณะนี้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญมายังคณะรัฐมนตรีแล้ว จึงให้ทุกส่วนราชการพิจารณาวิเคราะห์และให้ความเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร หรือมีข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพิ่มเติม และส่งผลการพิจารณาให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะคณะทำงานเพื่อศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เพื่อนำประเด็นต่าง ๆ หารือในที่ประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ๓.๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ป่าในภาคเหนือของประเทศไทยซึ่งมักถูกบุกรุกทำลายจากการเผาป่าหรือถางป่าเพื่อทำการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวให้กลับสู่สภาพป่าที่สมบูรณ์ดังเดิมด้วย ๓.๒ ปัจจุบันหน่วยงานภาคเอกชน มูลนิธิ และองค์กรสาธารณกุศล ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือและสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ จึงให้ส่วนราชการที่มีภารกิจใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น พิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมร่วมกับภาครัฐมากยิ่งขึ้นด้วย ๓.๓ ในช่วงที่ผ่านมาสถิติการจับกุมยาเสพติดของหน่วยงานด้านความมั่นคงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางส่วนพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ให้หน่วยงานของรัฐทั้งหมดกำกับดูแลและตรวจสอบเจ้าหน้าที่ในสังกัดมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในกระบวนการค้ายาเสพติด หากฝ่าฝืนให้ดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างเคร่งครัด
|
.....