ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 (The 5th GMS Summit) | นร11 | 18/02/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๕ (The 5th GMS Summit) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร โดยผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงให้ความเห็นชอบแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ (Joint Summit Declaration : JSD) มีสาระสำคัญในการผลักดันการดำเนินงานการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ใน GMS และผลักดันกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Cross Border Transport Agreement : CBTA) ร่วมผลักดันการพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจผ่านการดำเนินงานภายใต้เวทีการหารือการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridor Forum : ECF) และร่วมผลักดันการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการของกรอบการลงทุนของภูมิภาค (RIF-IP) ให้สามารถเกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งรับทราบรายงานเรื่องแผนปฏิบัติการของกรอบการลงทุนของภูมิภาค (Regional Investment Framework-Implementation Plan : RIF-IP) และผลสรุปการประชุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมหารือเพื่อการลงทุนในลุ่มแม่น้ำโขง การประชุมสภาธุรกิจ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง การประชุมโต๊ะกลมภาคีหุ้นส่วนการพัฒนา และการประชุมหารือผู้แทนเยาวชนลุ่มแม่น้ำโขง ๒. เห็นชอบข้อเสนอแผนการดำเนินงานระยะเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (GMS) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒.๑ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและขยายด่านพรมแดน ทั้งในส่วนของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าและคมนาคมขนส่งในอนุภูมิภาค รวมถึงเร่งผลักดันการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงอนุภูมิภาคและรถไฟความเร็วปานกลางระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีนให้เป็นรูปธรรม ๒.๒ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เร่งรัดการให้สัตยาบันต่อภาคผนวกและพิธีสารที่เหลืออยู่จำนวน ๖ ฉบับ ภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Cross Border Transport Agreement : CBTA) ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๘ ๒.๓ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ สนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน และสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ ให้เป็นองค์กรความร่วมมือเพื่อการพัฒนาหลักในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งทางด้านการเงิน ด้านวิชาการ และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แก่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีระดับการพัฒนาน้อยกว่าประเทศไทย ๒.๔ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน เร่งรัดศึกษาการจัดการผลกระทบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การจัดการความเสี่ยงและป้องกันผลกระทบเนื่องมาจากภัยธรรมชาติและภัยพิบัติต่าง ๆ และร่วมหารือในความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ และการเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ๒.๕ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานมหาวิทยาลัย สถาบันลุ่มแม่น้ำโขง สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ และธนาคารพัฒนาเอเชีย ร่วมกำหนดแนวทางความร่วมมือเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพบุคลากรในอนุภูมิภาค ๒.๖ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทยผลักดันการดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมของจังหวัด ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจและพื้นที่ชายแดนโดยประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา สื่อมวลชนและภาคีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ๒.๗ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานกระทรวงการต่างประเทศเร่งให้มีการหารือร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกันได้ ๒.๘ สภาธุรกิจ GMS Business Forum (GMS-BF) ประเทศไทย เร่งศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอการพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เร่งศึกษาแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อป้องกัน ลดผลกระทบ และจัดการความเสี่ยงทางธุรกิจเนื่องมาจากภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ และเร่งรัดกำหนดมาตรฐานคุณภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้าร่วมกับผู้ประกอบการในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง |
.....