ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/02/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินการสำรวจปริมาณการใช้ยางพาราของแต่ละหน่วยงานโดยเร็ว และจัดทำแผนการใช้ยางพาราในประเทศเพื่อให้การใช้ยางพาราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวบรวมปริมาณความต้องการใช้ยางพาราของทุกหน่วยงานเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๒ สัปดาห์ ๑.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยพิจารณาหาแนวทางการลดพื้นที่ปลูกยางพาราในประเทศ โดยในระยะแรกให้เริ่มดำเนินการในพื้นที่ซึ่งชาวสวนยางได้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเพาะปลูก พร้อมทั้งพิจารณาหาแนวทางการเยียวยาชาวสวนยางกลุ่มดังกล่าวด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงพาณิชย์จัดให้มีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกในพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น และให้หาแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลให้สามารถซื้อข้าวบริโภคได้ในราคาถูกด้วย ๑.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งพันธุ์โรงงานในประเทศให้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดและลดการนำเข้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปจากต่างประเทศ ๑.๕ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) กำหนดมาตรการป้องกันอัคคีภัยสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และตรวจสอบความพร้อมของมาตรการป้องกันการเกิดอัคคีภัยภายในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะโรงงานในเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำของชุมชนด้วย ๑.๖ ให้สำนักงบประมาณรวบรวมงบประมาณเหลือจ่ายของแต่ละส่วนราชการและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาใช้จ่ายสำหรับนโยบายเร่งด่วนที่เป็นการช่วยเหลือประชาชนต่อไป ๒. ด้านการต่างประเทศ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ เรื่อง ผลการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ บุคคลสองสัญชาติ การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยและมาเลเซีย การขนส่งทางถนน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรถยนต์ ซึ่งขณะนี้ไทยได้อนุญาตให้รถยนต์ของมาเลเซียเข้ายังพื้นที่ตอนในของไทยได้ ในขณะที่ไทยยังไม่ได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันจากมาเลเซีย) การค้าและการลงทุน (โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าของมาเลเซีย) และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ๓. ด้านสังคม รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลประชาชนทุกกลุ่มที่มีความเดือดร้อน เช่น เกษตรกร ผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อย คนจนเมือง และผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคม และโดยที่รัฐบาลเห็นว่าครูเป็นบุคลากรสำคัญในการสร้างอนาคตของประเทศ ซึ่งมีปัญหาหนี้สินจำนวนมากทำให้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มประสิทธิภาพ จึงให้กระทรวงการคลังและกระทรวงศึกษาธิการร่วมกันพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูเพิ่มเติมด้วย ๔. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๔.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถดำเนินการเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใต้แนวเขตทางด่วนได้อย่างคุ้มค่า และสามารถจัดเป็นพื้นที่ประกอบอาชีพของประชาชน เพื่อลดผลกระทบผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อย คนจนเมือง และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคม ได้หรือไม่ประการใด และหากจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมาย ให้พิจารณายกร่างกฎหมายแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔.๒ ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยร่วมดำเนินการเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการเร่งนำตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญต่อประชาชนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการก่อวินาศกรรม ปัญหาอาชญากรรม และปัญหายาเสพติด ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการแจ้งชื่อผู้แทนไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายระดับกระทรวง ทำหน้าที่ติดตาม ประสานและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และงานสำคัญของรัฐบาลร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน ๑ ปี ๕.๒ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลางโดยเชื่อมโยงข้อมูลในการดำเนินงานจากฐานข้อมูลต่าง ๆ ให้เป็นระบบเดียวกัน โดยแบ่งการดำเนินการเป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) ให้มีการบูรณาการการใช้ข้อมูล เช่น อัตราส่วนของแผนที่หน่วยจัดเก็บข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกหน่วยงาน (๒) ให้มีการกำหนดเจ้าภาพในการรวบรวม จัดเก็บและกลั่นกรองข้อมูลในแต่ละด้าน โดยมีการกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล และการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และ (๓) ให้มีการจัดชั้นความลับและการเข้าถึงข้อมูล กรณีข้อมูลที่อาจจะส่งผลกระทบต่องานด้านความมั่นคงให้มีการคัดกรองโดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ๕.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ ยุทธวงศ์) นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เช่น การช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต การรวมกลุ่มเกษตรกรในลักษณะสหกรณ์การเกษตรพิมาย เพื่อให้การรวมกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ และเพื่อเป็นโครงการนำร่อง ๕.๔ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยสำรวจพื้นที่ซึ่งประชาชนมีความต้องการใช้น้ำบาดาลและพิจารณากำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เช่น การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้สามารถขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้
|
.....