ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การทำหนังสือสัญญาที่หน่วยงานสามารถดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี | นร09 | 27/01/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๖) เกี่ยวกับเรื่องการทำหนังสือสัญญาที่หน่วยงานสามารถดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (เรื่องเสร็จที่ ๘๔/๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ สรุปได้ว่า การจัดทำหนังสือสัญญาจะถือขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนเริ่มต้นการจัดทำ และขอบเขตความหมายของคำว่า "หนังสือสัญญา" ที่ระบุในมติคณะรัฐมนตรีคืออะไร หากเป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องจัดทำขึ้นระหว่างรัฐ หรือระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะมีชื่อเรียกอย่างไร อันได้แก่ บันทึกความเข้าใจ ความตกลง หรือความร่วมมือ ย่อมเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันรัฐบาลที่จะต้องเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี โดยจะเป็นการเสนอเพื่อพิจารณาหรือเพื่อทราบก็ได้ แต่หากหนังสือสัญญานั้นเข้าข่ายที่ต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๒๓ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จะต้องเสนอหนังสือสัญญานั้นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบทุกกรณี นอกจากนี้ การกำหนดให้จัดทำแนวปฏิบัติในการทำหนังสือสัญญาที่ต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีมีขอบเขตครอบคลุมเพียงใด ซึ่งอาจมีอยู่จำนวนมากและอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไป อีกทั้ง ในการทำหนังสือสัญญาเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในรายละเอียดเป็นรายกรณีไป ดังนั้น การกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการทำหนังสือสัญญาที่หน่วยงานสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นหลักการทั่วไปที่ใช้ได้กับการทำหนังสือสัญญาในทุกกรณีจึงเป็นเรื่องที่กระทำได้ยาก ๒. เห็นชอบเกณฑ์การพิจารณาเบื้องต้นกรณีการจัดทำความตกลงที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องสามารถดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่โดยไม่ต้องนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องเป็นความตกลงที่เข้าเงื่อนไขครบทั้ง ๗ ประการ ดังนี้ ๒.๑ ไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กล่าวคือ ต้องไม่ใช่ความตกลงที่ทำขึ้นระหว่างรัฐหรือระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศที่มุ่งหมายจะให้มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ๒.๒ ทำขึ้นตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ของส่วนราชการในระดับกรม ๒.๓ ไม่ได้มีเนื้อหาเป็นเรื่องสำคัญหรือเกี่ยวข้องกับนโยบาย เช่น ไม่มีเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ทางสังคมหรือเศรษฐกิจการค้า หรือไม่กระทบต่อสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิในพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่อาจทำให้ไทยสูญเสียผลประโยชน์ ๒.๔ ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพันงบประมาณนอกเหนือจากงบประมาณที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐได้รับจัดสรรโดยความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว ๒.๕ สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับอยู่ในขณะที่ทำความตกลงนั้น ๆ ๒.๖ รัฐมนตรีเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบในการจัดทำความตกลงฯ แล้ว ๒.๗ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องได้เสนอร่างความตกลงฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาและให้ความเห็นชอบแล้ว ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการจัดทำความตกลงฯ ขึ้น โดยให้มีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ร่วมเป็นกรรมการด้วย |
.....