ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/01/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง โดยที่ขณะนี้ใกล้ครบกำหนดเวลาที่ใบอนุญาตทำงานชั่วคราวที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จออกให้แก่แรงงานต่างด้าวจะหมดอายุแล้ว แต่กระบวนการตรวจสัญชาติอาจไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ จึงให้กระทรวงแรงงานพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ รับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาและมติของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๗ โดยมีเรื่องแผนการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ ซึ่งได้กำหนดขอบเขตพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก ได้แก่ จังหวัดตาก มุกดาหาร สงขลา สระแก้ว และตราด นั้น ในการดำเนินการให้คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษพิจารณาใช้พื้นที่ของทางราชการเป็นลำดับแรก ๒.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรองรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล และจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) เพื่อไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นั้น เนื่องจากขณะนี้ยังมีความเข้าใจที่แตกต่างกันในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลค่อนข้างมาก จึงให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการสร้างการรับรู้ในเรื่องนี้ต่อสาธารณชนในวงกว้าง เช่น จัดกิจกรรมหรือเวทีให้ทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ร่วมกัน เป็นต้น ๒.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) รับเรื่องรายงานผลการศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากแร่ใยหินไปกำกับดูแล โดยตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องในภาพรวมทั้งหมด นั้น ให้คณะทำงานดังกล่าวพิจารณาหาแนวทางการยกเลิกการใช้แร่ใยหิน โดยเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และให้พิจารณาดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม ๒.๔ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางผลักดันจัดตั้งศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยศึกษาผลดี ผลเสีย และเตรียมความพร้อมและมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนย้ายเสรี (free flow) ในสาขาต่าง ๆ เช่น สินค้า บริการ การลงทุน แรงงาน ด้วย ๒.๕ ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนการขยายเส้นทางรถไฟสายหลักให้เกิดความเชื่อมโยงและครอบคลุมพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญในด้านต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น สถานที่ท่องเที่ยว เขตพื้นที่การศึกษา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น ๒.๖ ให้กระทรวงพลังงานสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ตามโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) ว่าได้มีระบบการกำหนดโควตาในการรับซื้อ มิใช่การรับซื้ออย่างไม่จำกัดจำนวน ๓. ด้านสังคม ให้กระทรวงศึกษาธิการประสานงานและร่วมติดตามการดำเนินการกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ที่มีกรณีว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริต ๔. ด้านการต่างประเทศ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านคาดหวังให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้แทนการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียน เช่น กรณีความขัดแย้งเรื่องการสร้างเขื่อนผลิตพลังงานไฟฟ้ากั้นแม่น้ำโขงของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และกรณีข้อพิพาทหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จึงให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเจรจาต่อไปด้วย ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีกลุ่มอาจารย์ของสถาบันการศึกษาที่ออกนอกระบบเรียกร้องเพื่อขอรับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวให้เท่าเทียมกับข้าราชการในสถาบันการศึกษาที่อยู่ในระบบ ๕.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งกำหนดบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดอย่างเหมาะสมเพื่อให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในการให้บริการยิ่งขึ้น นั้น ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว พร้อมทั้งติดตามกรณีปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น การข่มขู่ การเอารัดเอาเปรียบ และการหลอกลวงนักท่องเที่ยวด้วย ๕.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อประโยชน์ในการบริโภค อุปโภค และการเกษตรกรรม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะต่อไป นั้น ให้หน่วยงานดังกล่าวดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์การขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งให้มีแหล่งกักเก็บน้ำให้เพียงพอด้วย ๕.๔ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประสานงานกับทุกหน่วยงานในการบูรณาการการใช้ประโยชน์ร่วมกันจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางให้ศูนย์ต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของกระทรวงต่าง ๆ และศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด มีการทำงานที่เชื่อมโยงกันอย่างครบวงจร นั้น ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยเฉพาะการบูรณาการข้อมูลและการปรับปรุงฐานข้อมูลให้ทันสมัยและพร้อมใช้งานทุกเวลา ๕.๕ ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการผลักดันการปฏิรูปให้บรรลุผลสำเร็จ ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ การสร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การนิรโทษกรรม การดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมาย อำนาจหน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนทราบเหตุผลของการดำเนินการในแต่ละเรื่องให้ถูกต้องและชัดเจน จึงให้ทุกหน่วยงานเร่งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในเรื่องสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนที่อยู่ภายใต้ภารกิจความรับผิดชอบอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องด้วย
|
.....