ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 13/01/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ให้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กำกับให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องประสานธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อติดตามสถานการณ์ค่าเงินอย่างใกล้ชิดและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อภาคการส่งออกของไทย นั้น เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย จึงให้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กำกับให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องประสานธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ๑.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าของไทยที่มีศักยภาพโดดเด่นในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น การจัดกิจกรรมการประกวดกล้วยไม้โลก การจัดหาเที่ยวบินพิเศษเพื่อส่งออกกล้วยไม้ หรือผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น ๑.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาหาแนวทางสร้างท่าเทียบเรือยอร์ชและท่าเทียบเรือสำราญระหว่างประเทศขนาดใหญ่ โดยให้สามารถรองรับเรือยอร์ชได้กว่า ๑,๕๐๐ ลำ และให้มีท่าเรือน้ำลึกเพื่อรองรับเรือสำราญระหว่างประเทศขนาดใหญ่ได้ โดยให้เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ และสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและชาวต่างประเทศทราบด้วย ๑.๔ ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เพื่อเป็นข้อมูลให้ธนาคารของรัฐใช้ประกอบการสนับสนุนด้านสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนส่งเสริมบุคลากรทางการศึกษา เช่น สนับสนุนครูที่มีความสามารถให้ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น พัฒนาระบบการเรียนการสอนที่สามารถตอบสนองความต้องการของครู นักเรียน และผู้ปกครองไปพร้อมกัน ตลอดจนเร่งรัดโครงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กในถิ่นทุรกันดารด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาตรวจสอบบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยสุรา ว่ามีบทบัญญัติที่ครอบคลุมผู้ฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ประการใด และให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ๓. ด้านการต่างประเทศ ๓.๑ ในการประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศในเวทีต่าง ๆ ขอให้ทุกส่วนราชการนำเรื่องที่ประเทศไทยสามารถมีบทบาทเป็นผู้นำในภูมิภาค เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เสนอต่อที่ประชุมระดับนานาชาติด้วย เพื่อเป็นการสร้างบทบาทในเชิงรุกของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน ๓.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศประสานส่วนราชการต่าง ๆ ในการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านต่าง ๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นข้อมูลประกอบการเยือนด้วย ๓.๓ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายความมั่นคงโดยกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) พิจารณากำหนดช่องทางพิเศษในการตรวจลงตราสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมประชุม/สัมมนานานาชาติในประเทศไทย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการจัดประชุม/สัมมนานานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว รวมทั้งประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแนวทางการขอยกเว้นหรือการลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราสำหรับผู้เดินทางมายังประเทศไทยในกรณีต่าง ๆ เช่น กรณีการทำการวิจัยหรือสำรวจซึ่งมีประโยชน์ในเชิงถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีแก่คนไทย กรณีการมาร่วมประชุมหรืองานนิทรรศการ และกรณีการท่องเที่ยว โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ ๓.๔ ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาด้านการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผ่านแดนบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้พิจารณากำหนดวิธีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งเวลาทำการเปิด-ปิดด่านที่เหมาะสม แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในสัปดาห์หน้า ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการสร้างการรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร รวมทั้งชี้แจงประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องโดยไม่ตอบโต้ให้เกิดความขัดแย้ง นั้น เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่มีความคืบหน้าและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงให้ทุกส่วนราชการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ๔.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดแนวทางให้มีคณะกรรมการชำนาญการระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่รัฐบาลส่งเสริมให้มีการลงทุน หรือพื้นที่ที่ต้องเร่งพัฒนาหรือดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้โครงการและกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาลสามารถเริ่มดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ๔.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อประโยชน์ในการบริโภค อุปโภค และการเกษตรกรรม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะต่อไป ๔.๔ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและสัตว์โดยเฉพาะช้างที่อาศัยในเขตอุทยานแห่งชาติ เช่น การจัดทำป้ายสัญลักษณ์ติดตั้งในเส้นทางที่ช้างใช้ในการสัญจร การให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ช้างสัญจรและข้อพึงปฏิบัติที่สำคัญ การกำชับให้เจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และการสร้างการรับรู้ความเข้าใจ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงด้วย
|
.....