ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในกระบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง | ทส | 13/01/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาและผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในกระบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ทราบโดยทั่วกันด้วย สรุปได้ ดังนี้
๑. ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้พะยูงในเชิงเศรษฐกิจ โดยแจกกล้าไม้พะยูงให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนไม้พะยูงในประเทศไทยให้มากขึ้น หากประกาศให้ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข. ซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตให้ทำไม้ จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการปลูกไม้พะยูง แต่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ซึ่งกำหนดให้ไม้พะยูง ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในราชอาณาจักร เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. เช่นเดียวกับไม้สักและไม้ยาง เพื่อคุ้มครองไม้พะยูงและเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดให้หนักขึ้นจาก “ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท” ถือว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมทำให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัวต่อกฎหมายยิ่งขึ้น ๒. ศึกษาวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ไม้พะยูง และขณะนี้มีความพร้อมในการผลิตกล้าไม้พะยูงที่มีคุณภาพดี มีจำนวนเพียงพอในการแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชน มากกว่า ๑๐ ล้านกล้าต่อปี ๓. สร้างแนวร่วมและเครือข่ายพิทักษ์ป่าในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้หลายรูปแบบ เพื่อส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการอนุรักษ์และป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมทั้งได้ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาอาชีพให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ป่าและรอบพื้นที่ป่าให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในรูปแบบการบริหารจัดการป่าชุมชน ๙,๐๐๐ ป่า และมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนป่าชุมชนซึ่งอยู่รอบแนวเขตพื้นที่ป่าทั้งหมดให้ได้ ๒๘,๐๐๐ ป่า ๔. ผลักดันไม้พะยูงให้อยู่ในบัญชีแนบ ๒ ท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) ในคราวประชุม CITES CoP16 เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ณ กรุงเทพมหานคร สำหรับการผลักดันไม้พะยูงให้อยู่ในบัญชีแนบ ๑ ท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดประชุม/เสวนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อรับทราบถึงข้อดี ข้อเสีย ปัญหา อุปสรรค และผลกระทบจากการนำไม้พะยูงอยู่ในบัญชีแนบ ๑ CITES ต่อไป ๕. กำหนดจัดให้มีการประชุมภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ระหว่างหน่วยงาน ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติให้คณะกรรมการคดีพิเศษรับคดีการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงซึ่งเป็นคดีรายใหญ่ มีความซับซ้อนเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะดำเนินการได้ และเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในระดับต่าง ๆ เป็นคดีพิเศษ หรือเพื่อให้มีการโอนย้ายคดีมาดำเนินการที่ส่วนกลาง ๖. ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย ให้พนักงานฝ่ายปกครองเข้าควบคุมการสอบสวนการกระทำความผิดในคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการกระทำความผิดในคดีลักลอบตัดไม้และค้าไม้พะยูงทุกคดีเป็นกรณีพิเศษอย่างเคร่งครัด ๗. สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด จัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ ทุกเดือน และรายงานผลคดีในพื้นที่จังหวัดให้สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบทุก ๑๕ วัน และจัดทำระบบฐานข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ เพื่อรวบรวมคดีความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ โดยเฉพาะคดีไม้พะยูง ข้อมูลของผู้กระทำผิด รายการไม้ของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดให้เป็นระบบ รวมทั้งปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ๘. จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินคดีความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน ๙. เตรียมการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนในการดำเนินคดี การริบของกลางที่เป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะ ที่ใช้ในการกระทำผิด เพื่อป้องกันการนำกลับไปใช้ในการกระทำผิดซ้ำ และกำหนดแนวทางนำระเบียบข้อกฎหมายของพระราชบัญญัติการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาใช้ในการจัดการกับยานพาหนะของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด ๑๐. สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ รวบรวมคดีการกระทำผิดรายใหญ่หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ทั้งหมดให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ๑๑. ได้มีระเบียบว่าด้วยการจ่ายสินบนรางวัลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน สำหรับให้สินบนและรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสนำจับ และผู้ที่ทำการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ เพื่อเป็นการส่งเสริมมาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และได้ดำเนินการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการพิจารณาปรับเปลี่ยนระเบียบการปฏิบัติเกี่ยวกับของกลาง ในคดีความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ เพื่อเป็นแรงจูงใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเช่นเดียวกับการปฏิบัติเกี่ยวกับของกลางตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ หรือพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
|
.....