ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การรายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ [ผลการดำเนินงานในเดือนตุลาคม 2557 ของรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล)] | นร04 | 04/11/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) รายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (โดยการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ) ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (โดยการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย) การแก้ไขปัญหาสินค้ายางพารา การดำเนินการด้านพลังงาน การเร่งรัดโครงการด้านการคมนาคมขนส่ง การดำเนินการด้านการพาณิชย์ การดำเนินงานด้านอุตสาหกรรม การดำเนินการด้านการคลัง และการดำเนินการด้าน ICT ๒. ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้แล้วอย่างต่อเนื่อง เช่น การเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับโครงการขนาดเล็กที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ระมัดระวังปัญหาการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นจากการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณด้วย ๓. ให้กระทรวงพลังงานเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความตระหนักเรื่องการประหยัดพลังงานและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานของไทยในปัจจุบัน รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และให้เร่งทบทวนโควตาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนซึ่งได้รับอนุมัติไปแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใน ๓ ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำหรับโครงการที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีความโปร่งใส ให้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลผลงานของผู้ประกอบการทางการเกษตรซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลและประสบความสำเร็จ เช่น ผู้ประกอบการแปรรูปยางที่ได้รับสินเชื่อและนำไปลงทุนแล้วประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นการเผยแพร่ผลงานของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ๕. ให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งสรุปผลการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวในสต็อกของรัฐบาลเพื่อแจ้งผลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้เร่งระบายข้าวในสต็อกโดยเร็วเพื่อลดปัญหาการเสื่อมคุณภาพ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) โดยให้ประสานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอระบายข้าวที่เสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ ต้องไม่ให้กระทบกับราคาข้าวทั้งในส่วนที่มีอยู่เดิมและข้าวในฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาสู่ท้องตลาด นอกจากนี้ ให้เร่งตรวจสอบสต็อกยางพาราเพื่อจะได้เร่งระบายต่อไป ๖. ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) เกี่ยวกับการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนตามแผนการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ของพืชเกษตร และเร่งดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์การเรียนรู้เพื่อสร้างความรู้ให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกพืชทดแทน พืชหมุนเวียน และเกษตรผสมผสาน โดยนำองค์ความรู้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ และปราชญ์ชาวบ้านมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๗. ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) โดยพิจารณาทบทวนความตกลงระหว่างประเทศที่ได้ทำไว้กับประเทศต่าง ๆ ในด้านการคมนาคมว่าเรื่องใดสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือเรื่องใดควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไข โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลักและไม่ให้ส่งผลประทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ๘. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพื่อให้เริ่มดำเนินการได้โดยเร็ว ตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗] และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ๙. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเกี่ยวกับกรณีที่ราชอาณาจักรกัมพูชาประสงค์ให้ประเทศไทยไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตน้ำผลไม้ในราชอาณาจักรกัมพูชา โดยให้ประสานผู้ที่สนใจจะไปลงทุนดังกล่าว ๑๐. ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจและดำเนินการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดบริเวณเส้นทางที่เป็นจุดตัดทางรถไฟ โดยให้หามาตรการป้องกันและติดตั้งสัญญาณเตือนและอุปกรณ์ป้องกันเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่ต้องสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว
|
.....