ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 | กค | 21/10/2557 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบรายงานการเงินภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงิน งบรายได้และค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและหน่วยงานภาครัฐ (ส่วนราชการ มหาวิทยาลัยของรัฐ จังหวัด กลุ่มจังหวัด หน่วยงานอิสระ องค์การมหาชน และมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ) กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน ๘,๑๘๘ หน่วยงาน จากทั้งหมด ๘,๓๘๘ หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๘๐ ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า กลุ่มรัฐวิสาหกิจมีสินทรัพย์รวมมากที่สุด มูลค่ารวม ๑๑.๘๑ ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินและธุรกิจพลังงาน สำหรับรัฐบาลกลางและหน่วยงานภาครัฐมีสินทรัพย์รวม ๙.๑๒ ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในรูปที่ดินราชพัสดุ เงินกู้ในภาพรวม ๗.๔๓ ล้านล้านบาท เป็นของรัฐบาลกลาง ๓.๗๒ ล้านล้านบาท รองลงมาเป็นของรัฐวิสาหกิจ ๓.๖๗ ล้านล้านบาท รายได้ในภาพรวมเป็นของรัฐวิสาหกิจ ๔.๙๘ ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้ของธุรกิจพลังงานและการไฟฟ้า รองลงมาเป็นรายได้ของรัฐบาลกลางและหน่วยงานภาครัฐ ๒.๘๐ ล้านล้านบาท ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายต้นทุนขายและบริการในภาครัฐวิสาหกิจและค่าใช้จ่ายบุคลากรของรัฐบาลกลางและหน่วยงานภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาปรับปรุงลักษณะการวิเคราะห์ให้สามารถสะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความเสี่ยงทางการคลังของภาครัฐในภาพรวม การให้ความรู้ในด้านการบันทึกข้อมูลทางบัญชีให้กับเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สามารถจัดทำบัญชีได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งให้มีการแยกการรายงานในส่วนของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินและไม่ใช่สถาบันการเงินออกจากกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. เนื่องจากการรายงานฐานะของกองทุนและทุนหมุนเวียนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของรายงานการเงินรวมภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เคยมีข้อสั่งการ (๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗) เกี่ยวกับเรื่องกองทุนต่าง ๆ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมผลการดำเนินงานของกองทุนต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ และส่งให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) วิเคราะห์ และเสนอแนวทางการปรับปรุงพัฒนา หรือยกเลิกกองทุนเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณของกองทุนหมุนเวียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังและกองทุนอื่น ๆ ของทุกหน่วยงานเพื่อนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ ยุทธวงศ์) พิจารณาประกอบการจัดทำยุทธศาสตร์การวิจัยและการพัฒนาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้น จึงให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป |
.....