ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 21/10/2557 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. เรื่องเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนถึงผลกระทบในแต่ละพื้นที่อันเนื่องจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย รวมทั้งหามาตรการเตรียมความพร้อมรองรับกรณีเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคด้วย ๑.๒ เนื่องจากในระยะนี้มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงความไม่ปลอดภัยจากการท่องเที่ยวในประเทศไทยหลายกรณี เช่น การประทุษร้ายนักท่องเที่ยวจนถึงแก่ชีวิต อุบัติเหตุทางเรือ จึงให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งกำหนดบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในการให้บริการยิ่งขึ้น ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพิจารณาหาแนวทางการจัดพื้นที่ทำกินหรือใช้ประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ๑.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการกำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับการจัดผังเมือง โดยพิจารณาจัดแบ่งพื้นที่เป็นส่วนที่อยู่อาศัยและส่วนที่เป็นศูนย์กลางการประกอบอาชีพและการพาณิชย์ รวมทั้งคำนึงถึงการขยายของเมืองที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาในอนาคตเพื่อให้การจัดผังเมืองเป็นไปอย่างมีระบบในระยะยาวต่อไป ๑.๕ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินการจัดทำรายงานข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีการทำเหมืองแร่โปแตชในประเทศไทย โดยให้นำเสนอผลดี ผลเสีย ผลกระทบ มาตรการในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และการให้ความช่วยเหลือดูแลสิ่งแวดล้อมและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งแนวทางการใช้ประโยชน์จากแร่โปแตชในประเทศไทยอย่างครบวงจร เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว และให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงมหาดไทยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาหาแนวทางการทำเหมืองแร่โปแตชและการทำเหมืองเกลือที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย ๒. ด้านต่างประเทศ ๒.๑ ให้ทุกส่วนราชการจัดส่งข้อมูลในความรับผิดชอบ เช่น แผนและยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน ให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อใช้ประกอบการดำเนินการของศูนย์ความร่วมมือการค้าและการลงทุนของไทยในต่างประเทศรวมทั้งจัดมุมประเทศไทย (Thai Corner) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้ต่างชาติได้รู้จักต่อไปด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาหรือการทำความตกลงระหว่างประเทศพิจารณาจัดกลุ่มประเทศตามประเด็นสำคัญที่จะใช้ในการเจรจาหรือทำความตกลงระหว่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศที่เป็นตลาดการส่งออก กลุ่มประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อใช้ประโยชน์ในการเจรจาหรือทำความตกลงระหว่างประเทศในระยะต่อไป ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการพิจาณาตรวจสอบและทบทวนผลการดำเนินการตามบันทึกความตกลง บันทึกความเข้าใจ หรือเอกสารความร่วมมือระหว่างประเทศที่ได้เคยจัดทำไว้แล้ว เพื่อใช้ประกอบการจัดเตรียมข้อมูลในการเจรจาในอนาคตด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางให้ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของกระทรวงต่าง ๆ และศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด มีการทำงานที่เชื่อมโยงกันอย่างครบวงจร โดยเฉพาะให้มีการประสานงานกับกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจำแนกตามกลุ่มประเภทต่าง ๆ และให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ประสานงานทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนั้น ให้ทุกส่วนราชการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของแต่ละส่วนราชการไปประจำในแต่ละศูนย์ด้วย โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค ให้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย ๓.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการคลัง พิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีการงดจ่ายเงินบำนาญและเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ และเรียกเงินเบี้ยหวัดและเงินค่าครองชีพคืน โดยให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ๓.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งแก้ไขปัญหาการปล่อยน้ำเสียของสถานประกอบการลงสู่ลำคลองของชุมชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ๓.๔ ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม (กรมเจ้าท่า) กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์สาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทยและสะพานพระราม ๘ ในลักษณะของโครงการอเนกประสงค์ (mixed use) โดยการสร้างเขื่อนตลอดแนวพื้นที่ โดยเหนือแนวเขื่อนจัดเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ และใต้แนวเขื่อนก่อสร้างท่อระบายน้ำเพื่อนำน้ำออกสู่ทะเลและป้องกันปัญหาอุทกภัยในอนาคต ทั้งนี้ ควรศึกษาแนวทางการดำเนินการจากประเทศที่ได้มีการสร้างพื้นที่ใช้ประโยชน์ในลักษณะนี้แล้ว เช่น สาธารณรัฐเกาหลี ๓.๕ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาทบทวนแผนหรือยุทธศาสตร์ระยะยาวต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบที่มีระยะเวลาดำเนินการของแผนหรือยุทธศาสตร์ในช่วงเวลาที่แตกต่างหรือเหลื่อมล้ำกัน โดยปรับกรอบระยะเวลาของแผนหรือยุทธศาสตร์ใหม่ให้สอดคล้องกับกรอบระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อให้การดำเนินการตามแผนและการบูรณาการระหว่างแผนมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น ๓.๖ ให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลเฉพาะเรื่องที่ดำเนินการมีผลสัมฤทธิ์แล้วและประชาสัมพันธ์เรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
|
.....