ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 14/10/2557 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. เรื่องเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและมติคณะรัฐมนตรี ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งเคยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีเร่งดำเนินการตามที่เคยได้รับมอบหมาย ๒. ด้านต่างประเทศ ๒.๑ สืบเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๙-๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ซึ่งได้มีการเจรจาและลงนามบันทึกความตกลงร่วมกัน ดังนั้น เพื่อเร่งสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงคมนาคม ดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒.๒ ในการเตรียมประเด็นเพื่อใช้ในการเจรจาระหว่างประเทศ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาจัดเตรียมข้อมูลและนำประเด็นหลักที่ทุกเวทีโลกให้ความสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การแพร่ระบาดของโรคร้ายแรง (Pandemics) เป็นต้น รวมไว้ในประเด็นการเจรจาด้วย ๒.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือการค้าและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ รวมทั้งจัดมุมประเทศไทย (Thai Corner) เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้ต่างชาติได้รู้จัก ๓. ด้านเศรษฐกิจ ๓.๑ ให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดมาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการวิจัยและการพัฒนาองค์ความรู้ซึ่งก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๓.๒ มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและบรรเทาความเดือดร้อนทางการเกษตร เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรทุกประเภท ๓.๓ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ระบุแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ประเภทของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทั้งนี้ ให้กำหนดตัวชี้วัดกิจกรรม และกรอบระยะเวลาการดำเนินการ ที่ชัดเจน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ต่อไป ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ๔.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ ยุทธวงศ์) และรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้ทุกส่วนราชการที่จะมีการจัดซื้อจัดจ้างหรือดำเนินโครงการซึ่งต้องมีการจ้างที่ปรึกษาโครงการ พิจารณาจ้างหรือเพิ่มสัดส่วนการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญชาวไทย โดยเฉพาะบุคลากรภาครัฐที่จบการศึกษาในระดับปริญญาเอก เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้และลดการจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ๔.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งดำเนินการพัฒนาในเรื่องการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งพัฒนาด้านเศรษฐกิจ รวมถึงแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น การทุจริตของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นเงื่อนไขผลักให้ประชาชนไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐ ๔.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ติดตามการดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งพิจารณาแนวทางในการปรับปรุงภารกิจและการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ให้เป็นที่ยอมรับจากส่วนราชการมากยิ่งขึ้นด้วย ๕. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๕.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณากำหนดแนวทางสนับสนุนให้ผู้ที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งมิได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติมีส่วนร่วมในการปฏิรูปผ่านเวทีหรือกลไกอื่น ๆ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริง หากมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับข้อมูลด้านการปฏิรูปต่าง ๆ ที่คลาดเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ๕.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาดำเนินการ ๕.๒.๑ กำหนดมาตรการในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและครบถ้วนแก่ประชาชน โดยปราศจากการบิดเบือนอันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ความขัดแย้ง ๕.๒.๒ กำหนดแนวทางในการนำมาตรการต่าง ๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเคยมีมติหรือออกเป็นประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการมีอยู่ของคณะกรรมการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่จำเป็นต้องคงไว้ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบันด้วย ๕.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงยุติธรรมพิจารณาดำเนินการ ๕.๓.๑ พิจารณาอำนาจหน้าที่และความเชื่อมโยงของระบบศาลกับองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกระบวนการยุติธรรม นอกจากนั้น ให้รวบรวมประเด็นต่าง ๆ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาระบบศาลและองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกระบวนการยุติธรรม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อนำเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพิจารณาต่อไป ๕.๓.๒ เห็นควรให้พิจารณากำหนดแนวทางการประสานงานระหว่างพนักงานอัยการซึ่งเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและดำเนินคดีแทนรัฐบาลกับหน่วยงานของรัฐที่ถูกฟ้องคดี ๕.๓.๓ พิจารณากำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ควบคุมนักโทษคดียาเสพติดที่มีอยู่อย่างจำกัดแต่มีนักโทษคดียาเสพติดจำนวนมาก นอกจากนั้น ให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ในการประกันตัวโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งปัจจุบันยกเว้นเฉพาะกรณีคดียาเสพติด โดยควรให้พิจารณายกเว้นคดีประเภทอื่นที่มีความร้ายแรง เช่น คดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๕.๔ ในกรณีที่กระทรวงใดเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ให้รัฐมนตรี เจ้าสังกัดชี้แจงสาระสำคัญ ความจำเป็นในการปรับโครงสร้าง รวมทั้งผลกระทบต่อจำนวนบุคลากรและงบประมาณให้คณะรัฐมนตรีทราบเพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ๖. ด้านอื่น ๆ ๖.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการติดตามการรายงานและการพยากรณ์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และให้ทุกส่วนราชการติดตามสภาพอากาศและระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมฝนหลวงและการบินเกษตร) ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงให้แก่เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ๖.๒ มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการประกอบกิจการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด รวมทั้งพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณใกล้สถานศึกษาและที่สาธารณะ
|
.....