ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง | กษ | 01/10/2557 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) บริหารจัดการยางพาราที่ได้รับซื้อไว้ ๒. อนุมัติให้ อ.ส.ย. ขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามระยะเวลาโครงการฯ ที่ขยายออกไป (๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗) โดยให้กระทรวงการคลังขยายระยะเวลาการค้ำประกันเงินกู้ที่ อ.ส.ย. ได้กู้เงินกับ ธ.ก.ส. ออกไปจนถึงสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายโครงการฯ พร้อมทั้งชดเชยต้นทุนเงินในอัตราดอกเบี้ย FDR+1 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ (เรื่อง การรักษาเสถียรภาพราคายาง) ๓. อนุมัติให้ อ.ส.ย. นำเงินค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด และบริษัท มิตรไทยโฮลดิ้ง จำกัด กรณีไฟไหม้โรงงานบริษัท มิตรไทยโฮลดิ้ง จำกัด จำนวน ๒๓๕.๓๓๕ ล้านบาท เพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ค้างชำระ จำนวน ๑๘๒.๒๕๕ ล้านบาท ๔. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในส่วนที่ขยายระยะเวลาโครงการฯ จากเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗ ได้แก่ ค่าดำเนินการ ค่าบริหารโครงการ และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ให้ อ.ส.ย. ใช้จ่ายจากวงเงินคงเหลือ จำนวน ๑๔๒.๑๐๐ ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่ขยายระยะเวลาโครงการฯ ไปก่อน หากไม่เพียงพอ ให้ อ.ส.ย. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง ๕. ส่วนงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้ ธ.ก.ส. ชำระดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้ในช่วงการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไป นั้น ให้ ธ.ก.ส. ใช้เงินทุน ธ.ก.ส. สำรองจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวในเบื้องต้นก่อน และให้ ธ.ก.ส. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๖. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินโครงการฯ อย่างเข้มงวด รวมทั้งให้ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบสต็อกยาง จัดทำแผนการระบายสต็อกยางดังกล่าวให้ชัดเจน โดยให้ระบายยางที่ค้างอยู่ในสต็อกก่อน และเน้นการระบายยางให้แก่ผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ ให้จัดทำรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน เพื่อให้สามารถเร่งรัดการดำเนินงานและให้มีการปิดบัญชีโครงการฯ โดยเร็วตามกรอบระยะเวลาที่ขยายไว้ด้วย ๗. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการสนับสนุนและมาตรการทางด้านความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนประกอบกิจการเกี่ยวกับยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
.....