ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 15/07/2557 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. เรื่องเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาการปรับปรุงบทบาทหน่วยงานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานด้านนโยบายคือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานหลักในการปฏิบัติคือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นั้น โดยปรับปรุงให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ กสทช. มีบทบาทในการกำกับดูแลการสื่อสารเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการดูแลสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นภัยต่อเยาวชน สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งปรับปรุงให้บริษัท ทีโอทีฯ และบริษัท กสทฯ มีการจัดองค์กรที่เหมาะสม มีศักยภาพในการหารายได้เพื่อเลี้ยงตนเอง มีกระบวนการทำงานที่ประสานกับหน่วยงานด้านนโยบายโดยเฉพาะกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ทั้งสองบริษัทและเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วย ๑.๒ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงาน กำหนดมาตรการเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนจัดตั้งโรงงานขนาดเล็กหรือขนาดย่อมตามแนวชายแดน เพื่อสร้างงานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว โดยอาจพิจารณาใช้พื้นที่ทหารหรือพื้นที่ราชพัสดุเพื่อจัดทำเป็นโครงการนำร่อง ทั้งนี้ ให้เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ๒. เรื่องพลังงาน ๒.๑ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพลังงานเร่งพิจารณาแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในภาพรวมทั้งระบบ โดยเฉพาะโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน ๘๐๐ เมกะวัตต์ ที่ยังมิได้ดำเนินการเนื่องจากมีปัญหาในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้โครงการสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมภายในต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ติดตามการดำเนินการของโครงการดังกล่าวให้เป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใสต่อไปด้วย ๒.๒ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมร่วมกันพิจารณากระบวนการในการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง และนำเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาโดยเร็ว โดยหากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องจัดทำเป็นประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็ให้เร่งดำเนินการ แล้วเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๒.๓ ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ติดตามและตรวจสอบเกี่ยวกับการประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ (Independent Power Producer : IPP) แล้วรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบต่อไป ๓. เรื่องอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้มีการจัดตั้งศูนย์การช่วยเหลือผลิตผลทางการเกษตรในระดับจังหวัด เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบริการช่วยเหลือเกษตรกร และเฝ้าระวังภัยพิบัติเพื่อแจ้งเตือนเกษตรกรนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า ควรขยายขอบเขตหน้าที่ของศูนย์เพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ด้านการพาณิชย์ ด้านแรงงาน ด้านอุตสาหกรรม และด้านกฎหมาย จึงให้ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทยดำเนินการยกระดับศูนย์ดำรงธรรมให้เป็นศูนย์บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service Centre) ในระดับจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรตามที่กำหนดไว้ในมติข้างต้น รวมถึงการให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการภาครัฐแก่ประชาชนและให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่าง ๆ ข้างต้น โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าศูนย์ และมีผู้แทนจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มาปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์นี้ รวมทั้งให้ขยายการดำเนินการของศูนย์ไปสู่ระดับอำเภอและตำบล ทั้งนี้ ให้ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมาใช้บริการศูนย์ดังกล่าวต่อไปด้วย นอกจากนั้น ในส่วนของการส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืนโดยสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมและรณรงค์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย ๓.๒ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงสาธารณสุขเร่งชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบว่า ประชาชนทุกคนสามารถเข้ารับการบริการสาธารณสุขของรัฐภายใต้นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ตามปกติเช่นเดิม โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังมิได้มีการปรับลดเงินงบประมาณหรือปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การเข้ารับบริการใด ๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์
|
.....