ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 02/07/2557 | |||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ภาพรวม ๑.๑ ให้ส่วนราชการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยให้เบิกจ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการโครงการลงทุนที่มีวงเงินเกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินการต่อไปได้ ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันงบประมาณข้ามปี เพื่อให้สามารถดำเนินงาน/ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ทุกหน่วยงานเตรียมการให้พร้อมเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ ๑.๒ ให้ทุกฝ่ายเร่งรัดติดตามส่วนราชการในกำกับให้ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จ และเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ๑.๓ ให้ทุกฝ่ายพิจารณารายการงานสำคัญในเอกสารแนวทางปฏิบัติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวม ๒๑ รายการ ที่ได้แจกในที่ประชุมไปแล้ว และให้เพิ่มเติมงาน/โครงการสำคัญ รวมทั้งกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการว่าจะดำเนินการในช่วงเวลาใด กล่าวคือ ระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว แล้วแจ้งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบ เพื่อนำมาจัดทำแผนปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๒. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ๒.๑ ให้ส่วนราชการที่มีภารกิจในการเจรจาหรือการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ ดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑.๑ จัดทำแผนงานการเจรจาหรือจัดทำความตกลงฯ ล่วงหน้าระยะเวลา ๖ เดือน เสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบ ๒.๑.๒ ในการขออนุมัติเพื่อไปเจรจาหรือจัดทำความตกลงฯ ให้ส่วนราชการจัดทำบทสรุปวิเคราะห์ สาระสำคัญของประเด็นการเจรจาหรือความตกลงระหว่างประเทศ ท่าทีของไทยในการเจรจา ผลดีและผลเสีย รวมทั้งผลกระทบในการดำเนินการต่อประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสังเกตในประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้แจ้งให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบไปดำเนินการต่อไป ๒.๑.๓ กรณีที่การเจรจาหรือการจัดทำความตกลงฯ เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ให้หน่วยงานหลักในการเจรจาหรือจัดทำความตกลงฯ รายงานความคืบหน้าในการหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบด้วย ๒.๒ ให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและระมัดระวังในการชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันโดยเฉพาะในประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างประเทศ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน การอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวในประเทศไทย ๓. เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ๓.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น และให้พิจารณาหาแนวทางการขยายตลาดการส่งออกสินค้า โดยเฉพาะการส่งออกข้าวไปยังประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ทวีปแอฟริกา เป็นต้น ๓.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาทบทวนการดำเนินการในงานคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในส่วนของผลงานที่ได้รับการคุ้มครองแล้วว่ามีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อย่างไร และผลงานที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองว่าควรคุ้มครองในเรื่องใดบ้าง โดยเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรม แล้วกำหนดแนวทางคุ้มครองสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญาทั้งสองประเภทให้ชัดเจน และนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๔. พลังงาน ให้ฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาหาแนวทางส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานความร้อน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ เป็นต้น การใช้พลังงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เช่น ถ่านหินสะอาด เพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือด้านพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและการส่งเสริมพลังงานทดแทนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๕. กฎหมาย ให้ส่วนราชการเร่งเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การค้า เศรษฐกิจ หรือเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายที่จำเป็นต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน โดยเสนอให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมและฝ่ายที่กำกับดูแลพิจารณากลั่นกรองก่อน แล้วจึงเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติภายในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗
|
.....