ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 24/06/2557 | |||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ๑.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศในทุกช่องทางให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความจำเป็นที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะต้องดำเนินการเข้าควบคุมการบริหารประเทศ ๑.๒ ให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ในการเจรจาหรือการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ พิจารณาดำเนินการโดยยึดถือผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของชาติในเวทีโลกเป็นหลัก รวมทั้งให้พิจารณาถึงประเด็นทางความมั่นคงด้วย โดยประสานงานกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้มีการตรวจสอบและทบทวนการดำเนินการตามผลการประชุม/การเจรจาในครั้งที่ผ่านมาแล้ว เพื่อนำข้อมูล ปัญหา อุปสรรคมาใช้กำหนดท่าทีในการเจรจาข้อตกลง หรือการประชุมในครั้งต่อไป ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ในกรอบของประกาศ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารงานของท้องถิ่น โดยประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำแผนงาน/โครงการให้ชัดเจน สอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณปี ๒๕๕๗ จะต้องอยู่ในกรอบนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ๓. กฎหมาย ๓.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการวบรวม กลั่นกรอง และจัดประเภทกฎหมายที่สมควรดำเนินการในระยะที่ ๑ ระยะที่ ๒ หรือระยะที่ ๓ ให้ชัดเจน ๓.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการวบรวมกฎหมายสำคัญ ๆ เพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติพิจารณาในวาระแรก ได้แก่ กฎหมายที่เกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กฎหมายที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และกฎหมายที่เอื้อต่อการปฏิรูปการเมือง เป็นต้น สำหรับกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ ให้ศึกษาในรายละเอียดโดยให้เปรียบเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศด้วย ๓.๓ ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณกำหนดขอบเขตของงานหรือประเภทงานที่เหมาะสมกับการดำเนินการประมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ให้เกิดประสิทธิภาพ รวดเร็ว เสนอต่อฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพิจารณาก่อนเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๓.๔ ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๗ โดยให้ยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม โดยให้หัวหน้าฝ่ายทุกฝ่ายดำเนินการตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไป ๔. การประชาสัมพันธ์ ๔.๑ ให้ทุกหน่วยงานระมัดระวังในการสื่อสารและให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนและประชาชนโดยเฉพาะเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการหรือยังอยู่ในชั้นการพิจารณาที่ยังไม่เป็นที่ยุติหรือที่ต้องนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติก่อน และให้หัวหน้าส่วนราชการทั้งในระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีทำความเข้าใจในข้อสั่งการ นโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ชัดเจนก่อนที่จะให้ข้อมูลใด ๆ แก่สาธารณชน ๔.๒ ให้คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและกรมประชาสัมพันธ์ร่วมกันจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อชี้แจงผลการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในรอบ ๑ เดือน ให้ประชาชนและผู้สนใจทราบ ๔.๓ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจความพึงพอใจของประชาชนเกี่ยวกับผลงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในระยะเวลาที่ผ่านมา และรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบโดยเร็ว ๔.๔ ให้หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ศูนย์บริการประชาชน) กำหนดแนวทางการรวมศูนย์การรับข้อร้องเรียนของประชาชน โดยรวบรวม กลั่นกรอง เสนอแนะแนวทางการแก้ไข ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม และรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบ ๕. การดำเนินการข้อร้องเรียนและการทุจริต ๕.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงบประมาณตรวจสอบปัญหาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ และค่าตอบแทนที่พนักงานของมหาวิทยาลัยพึงจะได้รับตามสิทธิ แล้วรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบต่อไป ๕.๒ ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เช่น การออกใบประกอบกิจการโรงงาน (รง. ๔) เป็นต้น ๖. เรื่องอื่น ๆ ๖.๑ ให้ทุกหน่วยงานจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนให้สอดคล้องกับห้วงเวลาในการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ระยะ โดยจัดทำแผนการดำเนินการให้ชัดเจนว่า เรื่องใดต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน เรื่องใดสามารถดำเนินการในระยะที่ ๒ และระยะที่ ๓ ต่อไปได้ และให้จัดทำรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการเป็นประจำทุกวันตามนโยบายเชิงรุกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอต่อหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เพื่อรวบรวมเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบต่อไป ๖.๒ ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๖.๓ ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมร่วมกับฝ่ายมั่นคงและสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กำกับดูแลสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สถานีวิทยุชุมชน ให้มีการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเหมาะสมของการจัดตั้งสถานีต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ด้วย ๖.๔ ให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาดำเนินการกรณีข้าราชการที่เป็นสมาชิกของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) โดยสมัครใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และข้าราชการบำนาญที่จะกลับไปเลือกรับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการฉบับเดิม ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติในสัปดาห์ต่อไป ๖.๕ ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงและส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อยหาแนวทางในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ ให้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและก่อให้เกิดการกระทบกระทั่ง อันส่งผลในเชิงลบต่อการดำเนินการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
|
.....