ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 9 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พณ | 11/02/2557 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรี (Ministerial Conference : MC) สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๓-๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ (MC9) ๑.๑ ที่ประชุมฯ สามารถสรุปผลลัพธ์การเจรจาเรียกว่า “Bali Package” ซึ่งครอบคลุม ๓ ประเด็นภายใต้การเจรจารอบโดฮาที่สมาชิกได้หยิบยกมาเจรจาเพื่อหาข้อสรุปก่อน ได้แก่ การอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) เกษตร (Agriculture) และการพัฒนา รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด สำหรับประเด็นต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ ๘ ที่ประชุมฯ มีมติขยายเวลาการยกเว้นการเก็บอากรศุลกากรชั่วคราวสำหรับการค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แผนงานด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) และขยายเวลาการยกเว้นการฟ้องกรณีพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ออกไปอีก ๒ ปี (๒๕๕๗-๒๕๕๘) รวมทั้งการสนับสนุนให้มีการดำเนินการต่อเนื่องตามแผนงานเกี่ยวกับกลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดเล็ก (small economies) โครงการความช่วยเหลือเพื่อการค้า (Aid for Trade) และการค้ากับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ๑.๒ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมใหญ่ (Plenary Session) ว่า ไทยให้ความสำคัญกับระบบการค้าพหุภาคี และเห็นว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูบทบาทการเป็นเวทีการเจรจาการค้าขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) และการเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสรุปผลของการเจรจารอบโดฮาในที่สุด อีกทั้งเรียกร้องให้สมาชิกผลักดันการเจรจาเกษตรที่มีผลลัพธ์ที่สมดุลระหว่างการเปิดเสรีสินค้าเกษตรกับผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนา ในการนี้ไทยได้ประกาศการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least-Developed Countries : LDCs) โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free : DFQF) แก่สินค้านำเข้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด จำนวน ๔๙ ประเทศ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ ๗๓ ของรายการสินค้าทั้งหมด ๑.๓ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในพิธีสารการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-อัฟกานิสถานภายใต้กระบวนการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิก WTO ๒. การดำเนินการต่อเนื่องจากการประชุม MC9 ในเรื่องความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) กระทรวงพาณิชย์จะจัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดวินัยที่สามารถปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ และแจ้งต่อ WTO โดยเร็วเพื่อนำไปประกอบในความตกลง TFA สำหรับในส่วนการยอมรับพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้ง WTO เพื่อผนวก TFA เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงภายใน WTO จะเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๕๔ ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาแจ้งการยอมรับพิธีสาร (ระหว่างวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘) ๓. หลังจากที่ไทยประกาศดำเนินโครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (DFQF) อย่างเป็นทางการในการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ แล้ว กรมศุลกากรต้องพิจารณาหลักเกณฑ์กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าและคณะกรรมการป้องกันผลกระทบอันเนื่องจาก “การให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา” และกระทรวงพาณิชย์ต้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการระงับสิทธิพิเศษ ก่อนที่จะแจ้งรายละเอียดโครงการฯ ต่อ WTO ต่อไป |
.....