ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ข้อเสนอแผนงาน/โครงการภายใต้มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก (ฉบับปรับปรุง) | นร11 | 22/10/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอแผนงาน/โครงการภายใต้มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (ฉบับปรับปรุง) ประกอบด้วย ๕ แผนงาน/โครงการ ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๑๘,๘๗๕ ล้านบาท โดยขอใช้เงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท และขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน ๑๗,๘๗๕ ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถจำแนกข้อเสนอดังกล่าวออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนแรก โครงการที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา จำนวน ๓ แผนงาน/โครงการ วงเงิน ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท ได้แก่ โครงการเงินร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาเครื่องจักร (Venture Capital) โครงการสนับสนุนการปรับปรุง/ฟื้นฟูสภาพเครื่องจักร การใช้พลังงานทดแทน การประหยัดพลังงานแก่ SMEs (Machine Fund For SMEs) และการขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าบริการรายปีตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และส่วนที่สองโครงการที่ขอรับจัดสรรงบประมาณปี ๒๕๕๖ เพิ่มเติม (คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๖) จำนวน ๒ โครงการ วงเงิน ๘๗๕ ล้านบาท ได้แก่ โครงการคลินิกอุตสาหกรรมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ [โครงการเพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรมการผลิต (Productivity For SMI) และโครงการพัฒนาผลิตภาพของ SMEs ด้านการค้าและบริการ] และโครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ ได้แก่ ๑.๑ ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมตรวจสอบข้อเท็จจริงการชะลอการร่วมลงทุนของกองทุนร่วมลงทุนเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันของธุรกิจไทยกับผู้ประกอบการ SMEs ในระยะที่ผ่านมา และพิจารณาระเบียบการจัดสรรเงินกองทุน แนวทางและขั้นตอนการร่วมลงทุนให้เกิดความชัดเจน ก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กระทรวงอุตสาหกรรม และคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมหารือร่วมกับสำนักงบประมาณเพื่อปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ของกระทรวงอุตสาหกรรม และแนวทางการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ เพื่อดำเนินโครงการตามข้อเสนอดังกล่าว ๒. เห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานประเภท ๒ และ ๓ ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ จากเดิมที่สิ้นสุดในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ออกไปอีก ๓ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจชำระคืนค่าธรรมเนียมรายปีให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ จนถึงวันที่กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ |
.....