ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม - มิถุนายน 2556) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 22/10/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๖) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๕๖ เศรษฐกิจจีนและภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่เศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักฟื้นตัวอย่างช้า ๆ การคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลักมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงินโลกและทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน ซึ่งรวมถึงการไหลเข้าออกของเงินทุนในตลาดการเงินไทย เป็นผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวสองทิศทาง ผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงทำให้การฟื้นตัวของการส่งออกไทยล่าช้าออกไป เมื่อรวมกับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอหลังจากเร่งใช้จ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า จึงทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวชะลอลง ๑.๒ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่สร้างความกังวล ฐานะการเงินของภาคสถาบันการเงินเข้มแข็ง สินเชื่อของทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนขยายตัวดีและชะลอลงบ้าง สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการที่สถาบันการเงินเริ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในสองทิศทาง ฐานะการคลังยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องระมัดระวังภาระผูกพันของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนเสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์มั่นคงต่อเนื่อง ๑.๓ แนวโน้มเศรษฐกิจในปี ๒๕๕๖ คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจากปีก่อน เป็นผลจากการพักฐานของอุปสงค์ในประเทศหลังจากเร่งขึ้นมากในช่วงก่อนจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ประกอบกับการส่งออกฟื้นตัวล่าช้าตามทิศทางเศรษฐกิจคู่ค้าโดยเฉพาะจีนและภูมิภาคเอเชีย อุปสงค์จากทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจเลื่อนการลงทุนบางส่วนออกไป อย่างไรก็ดี พื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี อาทิ แนวโน้มการจ้างงานและรายได้ นโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย ความพร้อมและความจำเป็นของภาคธุรกิจที่ต้องลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตทดแทนการใช้แรงงาน รวมถึงเศรษฐกิจคู่ค้าที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว จะเอื้อให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาขยายตัวได้ตามปกติที่ร้อยละ ๕.๐ ในปี ๒๕๕๗ สำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับปัจจุบัน ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน การชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนและผลประกอบการของภาคธุรกิจ และปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะด้านแรงงานที่อาจเป็นข้อจำกัดในภาคการผลิตและมีผลลดทอนศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ๒. ให้กระทรวงการคลัง และ ธปท. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่ให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพทั้งทางด้านราคาควบคู่ไปกับการดูแลรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อมิให้ผันผวนรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง โดยใช้องค์ประกอบนโยบายที่เหมาะสม (Policy Mix) ประกอบด้วย การบริหารจัดการเงินทุนเคลื่อนย้ายควบคู่กับการดำเนินนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนการใช้การสื่อสารต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และลดการเก็งกำไรจากการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อดูแลเสถียรภาพด้านราคาและลดผลกระทบจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อภาคเศรษฐกิจจริง และให้ ธปท. รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของ ธปท. ต้องทำควบคู่กันไปกับการสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนถึงความสามารถในการดำเนินการตามพันธกิจหลักของ ธปท. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....