ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 128 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | สผ | 15/10/2556 | |||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๒๘ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (The 128th Assembly of the Inter-Parliamentary Union) ระหว่างวันที่ ๑๙-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ กรุงกีโต สาธารณรัฐเอกวาดอร์ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมภายใต้หัวข้อในการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ในครั้งนี้คือ “จากการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งสู่การพัฒนาอย่างมีเป้าหมาย ในแนวทาง ‘การมีชีวิตที่ดี’ หรือ ‘Buen Vivir’ : ทางเลือกใหม่ ทางแก้ไขใหม่” ที่ประชุมเห็นด้วยในเรื่องของการพัฒนาในบริบทของการเติบโตทางเศรษฐกิจว่ามีความจำเป็นและมีส่วนช่วยเหลือในด้านการพัฒนาอย่างมากสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาในหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการนำหลักการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาปรับใช้เพื่อเป็นหลักในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ๒. แถลงการณ์กีโต (Quito Communigue) ได้มีการอภิปรายในเรื่องเกี่ยวกับนโยบายความเป็นอยู่พื้นที่เศรษฐกิจสีเขียว การบริหารแบบประชาธิปไตย การพัฒนาที่ยั่งยืนในรูปแบบใหม่ และการทำงานของรัฐสภา ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรถูกนำไปอภิปรายในการประชุมของรัฐสภาแห่งชาติ เพื่อเป็นหนทางหนึ่งที่จะนำสู่การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมกับในระดับโลก ๓. การประชุมคณะมนตรีบริหารสหภาพรัฐสภา ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นสำคัญ ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับสมาชิกภาพในสหภาพรัฐสภา การอนุวัติยุทธศาสตร์สหภาพรัฐสภา ๒๕๕๕-๒๕๖๐ ความร่วมมือกับสหประชาชาติ การรับรองรายงานการเงินปี ๒๕๕๕ ปฏิบัติการสหภาพรัฐสภาเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยและสถาบันรัฐสภา การประชุมสหภาพรัฐสภาในอนาคต การแก้ไขธรรมนูญและข้อบังคับ แถลงการณ์ของประธานสหภาพรัฐสภาว่าด้วยสถานการณ์ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง การเลือกตั้งเลขาธิการสหภาพรัฐสภา และการบรรจุระเบียบวาระเร่งด่วนที่เสนอโดยราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน (Jordan) เรื่อง “บทบาทของรัฐสภาในการจัดการกับผลกระทบด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมที่เกิดจากวิกฤตการณ์ในซีเรีย และการกดดันรัฐบาลของตนเองให้แสดงออกซึ่งความรับผิดชอบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและด้านมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและให้การสนับสนุนประเทศเพื่อนบ้านที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยดังกล่าว ๔. การประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรี ครั้งที่ ๑๘ ที่ประชุมรับทราบเรื่องการติดตามแผนปฏิบัติการด้านรัฐสภาที่ตระหนักถึงความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย (Plan of Action on Gender-sensitive parliament) ของสำนักเลขาธิการสหภาพรัฐสภา โดยที่ประชุมได้แยกออกเป็น ๒ กลุ่มย่อย เพื่ออภิปรายในการพิจารณามุมมองทางด้านสถานะระหว่างชายหญิง ในหัวข้อของคณะกรรมาธิการ คณะที่ ๑ และคณะกรรมาธิการ คณะที่ ๒ ได้แก่ “การบังคับใช้หลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง : บทบาทรัฐสภาในการคุ้มครองชีวิตพลเรือน” (Enforcing the responsibility to protect : The role of parliament in safeguarding civilians’ lives) และ “การค้าอย่างเป็นธรรมและกลไกทางการเงินที่มีนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Fair trade and innovative financing mechanisms for sustainable development) ๕. การประชุมกลุ่มอนุภูมิภาคอาเซียน+๓ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการเสนอชื่อผู้แทนสมาชิกในกลุ่มเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างข้อมติ และการประชุมกลุ่มภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประชุมได้มีการเสนอตัวคณะผู้แทนประเทศต่าง ๆ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งที่ว่างลงในสหภาพรัฐสภา ๖. การประชุมคณะกรรมาธิการ คณะที่ ๑ ว่าด้วยสันติและความมั่นคงระหว่างประเทศ หัวข้อ “การบังคับใช้หลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง : บทบาทรัฐสภาในการคุ้มครองชีวิตพลเรือน” ประเทศไทยไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ แต่เห็นด้วยในการใช้เครื่องมือการแทรกแซงผ่านองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นกลไกที่นานาประเทศร่วมลงนามยอมรับ ในฐานะสมาชิกรัฐสภาจะมีการผลักดันให้ภาครัฐบาลนำหลักการนี้ไปปฏิบัติโดยเจรจากับทุกภาคส่วนผ่านกระบวนการนิติบัญญัติในการให้ความคุ้มครองชีวิตพลเรือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและสตรี ๗. การประชุมคณะกรรมาธิการ คณะที่ ๒ ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน การคลัง และการค้า หัวข้อ “การค้าอย่างเป็นธรรมและกลไกทางการเงินที่มีนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” สมาชิกรัฐสภาควรส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าแฟร์เทรด และสนับสนุนองค์กรอิสระด้านการค้าต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนสินค้าประเภทนี้ โดยการตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการลดภาษีสินค้าแฟร์เทรด ๘. การประชุมคณะกรรมาธิการ คณะที่ ๓ ว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน หัวข้อ “การใช้สื่อ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมืองและประชาธิปไตย” ที่ประชุมได้รับรองร่างข้อมติว่าด้วยการใช้สื่อ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมืองและประชาธิปไตย ๙. การอภิปรายกลุ่มย่อย มีหัวข้อการอภิปราย ได้แก่ หัวข้อ “การทำให้ยาเสพติดไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย : จะสามารถหยุดยั้งอาชญากรรมได้หรือไม่ (The legalization of drugs : Can it help curb organized crime?) และหัวข้อเรื่อง “การดูแลสิทธิเด็กพิการ” (Addressing the rights of children with disabilities) ๑๐. การประชุมยุวสมาชิกรัฐสภา ที่ประชุมได้ให้การรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ในการจัดตั้งการประชุมยุวสมาชิกแห่งสหภาพรัฐสภา (Forum of Young Parliamentarians) เพื่อแบ่งปันเป้าหมายยุทธศาสตร์ของสหภาพรัฐสภาและกล่าวถึงสิ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จ และได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในการใส่มุมมองของตนเองลงในร่างข้อมติในคณะกรรมาธิการทั้ง ๓ คณะ ในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๒๘ รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการพัฒนา กฎ โครงสร้างผู้เข้าร่วมประชุมและบทบาทของการประชุมยุวสมาชิกรัฐสภาแห่งสหภาพรัฐสภา (young parliamentarians of the IPU) ๑๑. การสัมมนาเชิงวิชาการ หัวข้อ “Towards a new vision for development : What place for governance?” และกรอบแผนงานว่าด้วยการพัฒนาระหว่างประเทศ ผลการสัมมนาส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นว่า ปัญหาที่สำคัญที่ทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างยากลำบาก คือ ปัญหาการคอร์รัปชัน ซึ่งการบริหารต้องเล็งเห็นความสำคัญข้อนี้ และต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประกอบกับให้ความสำคัญกับภาคประชาสังคมอย่างเท่าเทียมกันทุกภาคส่วน ทั้งสตรี เยาวชน กลุ่มชาติพันธุ์ ตลอดจนกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ๑๒. กรณีของประเทศไทยจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสมาชิกรัฐสภา ที่ประชุมรับทราบว่าคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสมาชิกรัฐสภาจะยังคงกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไว้ในรายงานของคณะกรรมาธิการ สำหรับกรณีของนายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการจะยังไม่พิจารณาเพิ่มเติมในชั้นนี้ ๑๓. การเข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมาธิการส่งเสริมกฎหมายมนุษยชนระหว่างประเทศ ของนายพีรพันธุ์ พาลุสุข หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ที่ประชุมได้มีมติให้ Mr. A.A. Cakra Wijiaya จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งถึงเดือนเมษายน ๒๕๕๗ นอกจากนี้ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลไทย ในฐานะกรรมาธิการสมทบได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคู่มือสำหรับสมาชิกรัฐสภาว่าด้วยสัญชาติและการไร้สัญชาติว่า เป็นคู่มือที่มีประโยชน์ควรมีการเผยแพร่ให้แพร่หลาย และควรให้ความสนใจในภูมิภาคที่มีปัญหาเกิดขึ้นและส่งเสริมความร่วมมือส่วนภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหานี้เป็นพิเศษ
|
.....