ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวอย่างยั่งยืน" | สสป | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวอย่างยั่งยืน"และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สมาคมที่เกี่ยวข้องกับข้าว และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ด้านการผลิต ๑.๑ การบริหารจัดการพื้นที่ปลูกข้าว ได้แก่ การจัดพื้นที่การทำนาให้เพียงพอ เร่งผลักดันการออกโฉนดชุมชน การจัดโซนนิ่ง (Zoning) กำหนดเขตพื้นที่เพาะปลูกตามความเหมาะสม วิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในการจัดทำข้อมูลการเพาะปลูกข้าว ๑.๒ การจัดการต้นทุนการผลิต ได้แก่ ลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมี การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การลดต้นทุนการขนส่ง ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อลดต้นทุนการผลิต สนับสนุนและส่งเสริมศูนย์พันธุ์ข้าวชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนให้แรงจูงใจในการทำเกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตร เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้ชุมชนใช้ระบบสหกรณ์และระบบวิสาหกิจชุมชน โดยมีรัฐเป็นผู้ให้คำชี้แนะและช่วยผลักดัน ส่งเสริมระบบสหกรณ์อย่างจริงจัง ส่งเสริมให้ใช้ปัจจัยการผลิตร่วมกัน ทั้งในด้านเครื่องจักรกล แรงงาน และส่งเสริมการรวมที่ดินโดยรวมกลุ่มเกษตรกรทำนาร่วมกัน ๓,๐๐๐-๕,๐๐๐ ไร่ ส่งเสริมระบบการออมเพื่อเป็นหลักประกันและสวัสดิการเกษตรกร และการวางแผนการผลิต ๑.๓ การจัดการพันธุ์ข้าวปลูก ได้แก่ ส่งเสริมให้มีการวิจัยพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ ปรังปรุงพันธุ์ข้าวการค้าให้ตอบสนองปุ๋ยอินทรีย์ ปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับพื้นที่ ตลาด และฤดูกาล จดสิทธิบัตรพันธุ์ข้าวเพื่อคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ และแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ รวมถึงการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจดสิทธิบัตรพันธุ์พืช และความหลากหลายทางชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน โดยให้เป็นที่ยอมรับของสากล รวมทั้งแก้ไขพระราชบัญญัติค้าข้าวให้ครอบคลุมถึงผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ๒. ด้านการตลาด ๒.๑ การยกระดับคุณภาพข้าวไทยให้ตรงตามความต้องการของตลาด ได้แก่ วิเคราะห์จุดเด่นของข้าวแต่ละพันธุ์ ทั้งลักษณะทางภายภาพ (Physical) และทางเคมี (Chemical) สร้างมาตรฐานวิธีการตรวจสอบคุณภาพข้าวที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างมาตรฐานการจัดลำดับชั้นคุณภาพข้าวเปลือกไม่ปลอมปนพันธุ์ข้าว คัดแยกคุณภาพข้าวตามเกรด ให้มีการควบคุมการแปรรูปจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสารต้องแยกตามสายพันธุ์ สร้างตราสินค้าข้าวไทยโดยเริ่มต้นจากการควบคุมกระบวนการผลิตในพื้นที่ให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ทำข้อตกลงการซื้อขายล่วงหน้าร่วมระหว่างโรงสีกับเกษตรกรในพื้นที่ ๒.๒ ส่งเสริมและสร้างเอกลักษณ์ข้าว ได้แก่ สร้างเอกลักษณ์ข้าวไทย โดยร้อยเรียงเรื่องเล่าที่มีต่อเนื่องกันมาเป็นประวัติศาสตร์พันธุ์ข้าว กระบวนการผลิต และการแปรรูป ให้เป็นเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของข้าวไทย จำแนกประเภทข้าว ตามคุณสมบัติทั้งทางกายภาพ ทางเคมี คุณประโยชน์ทางโภชนาการ และเพิ่มข้อมูลเปรียบเทียบมูลค่าเพิ่มระหว่างข้าวที่ผลิตในระบบปกติ กับข้าวที่แปรรูปในลักษณะพิเศษโดยนำราคาขายของข้าวแต่ละประเภทมาเปรียบเทียบ ๒.๓ กลไกการตลาด ได้แก่ วิเคราะห์หาปริมาณความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ และต่างประเทศ แยกความแตกต่างทางการตลาดของข้าวสาร ชนิดต่าง ๆ ตามประเภทของตลาด ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพที่มีผลต่อสถานการณ์ โดยให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพ ขายข้าวตามคุณภาพในระดับราคาที่ต่างกัน ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ เชื่อมโยงเมนูอาหารไทยต้องมีวัตถุดิบจากข้าวไทย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายข้าวนอกเหนือจากในรูปวัตถุดิบ สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ และให้ความสำคัญในการรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิตและผู้ค้าข้าวในภูมิภาค ๓. การบริหารจัดการโครงสร้างการแบ่งปันรายได้ ได้แก่ ๓.๑ จัดโครงสร้างการแบ่งปันรายได้โดยมีระบบการจัดสรรผลประโยชน์อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในกระบวนการผลิต ไปสู่โรงสีในกระบวนการรวบรวมผลผลิตและการแปรรูปซึ่งนับเป็นกลางน้ำ ไปจนถึงผู้ส่งออกและผู้บริโภค โดยคำนึงถึงระบบห่วงโซ่การผลิต (Supply chain) และระบบห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) โดยอาจมีการกำหนดสัดส่วนรายได้ตามข้อตกลงของทุกฝ่ายที่เหมาะสม ๓.๒ การแปรรูป ภายใต้แนวคิด เกษตรกรเป็นเจ้าของผลผลิตตั้งแต่ต้น จนถึงมือผู้บริโภค และกระบวนการผลิตสินค้าเป็นการลงทุนร่วมกันของระบบ ผลตอบแทนที่ได้เป็นของระบบที่ต้องมาจัดสรรแบ่งกันด้วยความเป็นธรรม โดยคำนึงถึงต้นทุนในการผลิตทุกขั้นตอน ๓.๓ ส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจตามข้อ ๓.๑ โดยใช้วิสาหกิจหรือระบบสหกรณ์เพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรของเกษตรกรมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ๓.๔ ควรพิจารณาให้ข้าวสารสำหรับบริโภคภายในประเทศเป็นสินค้าควบคุมราคา
|
.....