ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 45 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | พณ | 24/09/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ ๔๕ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ บันดาเสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินการภายในอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๑.๑.๑ ที่ประชุมรับทราบการดำเนินการตามแผนงานการไปสู่ประชาคมอาเซียน โดยประเทศที่ดำเนินการคืบหน้าได้มาก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย รวมทั้งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ตกลงไว้เพื่อไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๐๑๕ ๑.๑.๒ ที่ประชุมมีมติให้ทุกประเทศเสนอมาตรการทางการค้าของตนเองที่ถูกร้องเรียนว่าเป็นปัญหาอุปสรรคทางการค้าจำนวนหนึ่งเรื่องเพื่อเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างของการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้าในอนาคต โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี ๑.๑.๓ ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าการจัดทำพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ ๙ ภายใต้กรอบความตกลงด้านการค้าบริการของอาเซียน ซึ่งจะครอบคลุมสาขาบริการเพิ่มมากขึ้น โดยขอให้แต่ละประเทศสมาชิกเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๖ เพื่อให้ข้อผูกพันมีผลใช้บังคับโดยเร็วที่สุด ๑.๑.๔ ที่ประชุมรับทราบว่าอาเซียนได้ตกลงรับร่างพิธีสารสำหรับการปรับปรุงแก้ไขความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน เพื่อกำหนดกระบวนการเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดในการให้อาเซียนเข้ามาลงทุน ๑.๒ ความคืบหน้าในการสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ๑.๒.๑ ที่ประชุมได้หารือเพื่อเตรียมการเยือนจีนและฮ่องกงของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อประชาสัมพันธ์อาเซียนให้เป็นที่รู้จัก และขยายการค้าและการลงทุนกับจีนและฮ่องกงให้มากยิ่งขึ้น โดยไทยได้รับความไว้วางใจจากประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นประเทศผู้ประสานงานของอาเซียนกับฮ่องกงในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง ที่จะเริ่มต้นเจรจาในต้นปี ๒๕๕๗ ๑.๒.๒ การเจรจาความตกลงเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ทั้งสองฝ่ายสามารถสรุปการเจรจาความตกลงฯ ได้แล้ว โดยประเทศสมาชิกจะดำเนินกระบวนการภายในเพื่อลงนามความตกลงฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-อินเดีย ในเดือนตุลาคม ศกนี้ ๑.๒.๓ ที่ประชุมอยู่ระหว่างการเจรจาสรุปความตกลงเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนกับญี่ปุ่น โดยขอให้ทุกฝ่ายมีความยืดหยุ่นในการเจรจาให้มากขึ้น เพื่อให้สรุปการเจรจาได้ก่อนการฉลองครบรอบความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ๔๐ ปี ในช่วงเดือนธันวาคม ศกนี้ ๑.๒.๔ การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP : Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือความตกลงอาเซียน+๖ (อาเซียน ๑๐ ประเทศ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก โดยไทยได้ร่วมผลักดันให้ที่ประชุมเห็นพ้องในหลักการพื้นฐานสำคัญว่าประเทศสมาชิก RCEP ต้องมีตารางการเปิดตลาดเพียงตารางเดียว (single schedule of commitments) ที่เปิดให้กับทุกประเทศ ๑.๒.๕ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและรัสเซียได้ให้การรับรองแผนปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับรัสเซีย โดยที่ประชุมเห็นด้วยกับไทยว่าควรจัดลำดับความสำคัญของความร่วมมือเพื่อเร่งดำเนินการก่อน เช่น การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น ๑.๓ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ได้หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับประเทศต่าง ๆ ได้แก่ การหารือกับรัฐมนตรีการค้าอาเซียน รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าอินโดนีเซีย การหารือกับรัฐมนตรีการค้าในภูมิภาคเอเชียและอเมริกาเหนือ ได้แก่ การหารือกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น และผู้แทนการค้าสหรัฐ รวมทั้งการหารือกับคณะผู้แทนจากสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐ (USABC) ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับประเด็นการหารือกับผู้แทนสหรัฐฯ ในการเข้าร่วมความตกลง TPP (Trans Pacific Partnership) ไม่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติมให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยมากนัก การตัดสินใจเข้าร่วม TPP ควรตั้งอยู่บนผลประโยชน์สุทธิที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ โดยพิจารณาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ ส่วนประเด็นเรื่องการลด/เลิกมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) ควรผลักดันให้สมาชิกอาเซียนอื่นที่มีการบังคับใช้มาตรการ NTMs ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศเป็นจำนวนมากให้มีการลด/ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า เพิ่มความโปร่งใส เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....