ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการเยือนศรีลังกาและมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 06/08/2556 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาและสาธารณรัฐมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม-๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามตารางติดตามผลการเยือนที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ๑.๑ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การขยายมูลค่าการค้าเป็น ๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การฟื้นฟูและจัดประชุมคณะอนุกรรมการด้านการค้า การจัดตั้งเวทีการหารือภาคธุรกิจระดับสูง การสร้างโอกาสการลงทุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนของภาคเอกชน การลงทุนด้านหุ้นกู้ (debentures) ในศรีลังกา และการให้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีสินค้าชาแก่ศรีลังกา ๑.๒ ความร่วมมือด้านความมั่นคง ได้แก่ การขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงเพิ่มขึ้น อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูล/ความมั่นคงทางทะเล ๑.๓ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการดำเนินการตามกรอบบันทึกความเข้าใจ [Memorandum of Understanding (MOU)] ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่ได้มีการลงนามระหว่างการเยือน ๑.๔ ความร่วมมือด้านศาสนาและวัฒนธรรม ได้แก่ การติดตามการจัดกิจกรรมในกรอบการฉลอง ๒๖๐ ปี แห่งการสถาปนาสยามนิกายในศรีลังกา และการจัดหาที่ดินก่อสร้างวัดไทยแห่งแรกในศรีลังกา ๑.๕ ความร่วมมือด้านวิชาการและการพัฒนา ได้แก่ การจัดสรรทุนอบรมในสาขาพัฒนาชนบท การเกษตร การประมง การจัดการด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แผนดำเนินการ ๓ ปี ไทย-ศรีลังกา ระหว่างปี ๒๕๕๖-๒๕๕๙ ๑.๖ ความร่วมมือด้านการเกษตรและประมง ได้แก่ การจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร และการประชุมคณะทำงานร่วมด้านประมง ๑.๗ การส่งเสริมความเชื่อมโยง ได้แก่ การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางอากาศและทางทะเล ๑.๘ ความร่วมมือในกรอบภูมิภาคและพหุภาคี ได้แก่ การสนับสนุนไทยในการสมัครสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) และในสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council : UNHRC) ๒. ผลการเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ๒.๑ เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ได้แก่ การเพิ่มมูลค่าการค้าให้เป็นสองเท่าภายในปี ๒๕๖๑ การส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนโดยใช้มัลดีฟส์เป็นฐานการผลิตสินค้า โดยมัลดีฟส์เสนอให้นำรายการสินค้าและราคามาเปรียบเทียบ เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าของมัลดีฟส์ รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนโดยใช้มัลดีฟส์เป็นฐานการผลิตสินค้า นอกจากนี้ ฝ่ายมัลดีฟส์ต้องการร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการสนับสนุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของมัลดีฟส์ โดยฝ่ายมัลดีฟส์จะอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนไทยที่เข้ามาลงทุนในมัลดีฟส์ อาทิ ในเรื่องการขอใบอนุญาตทำงาน และการขยายอายุการตรวจลงตรา ๒.๒ การท่องเที่ยว ได้แก่ การขยายโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติให้ชาวมัลดีฟส์สามารถใช้บริการรักษาพยาบาลในประเทศไทยภายใต้โครงการดังกล่าวได้ และการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกันในอนาคต เพื่อส่งเสริมการติดต่อระหว่างประชาชนต่อประชาชน ๒.๓ การเชื่อมโยง ได้แก่ การขยายการเชื่อมโยง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางอากาศ และทางเรือ รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกัน ๒.๔ ความร่วมมือด้านวิชาการ ได้แก่ การให้ความร่วมมือทางวิชาการไทย-มัลดีฟส์ในลักษณะแผนงามสามปี (๒๕๕๗-๒๕๕๙) มุ่งเน้นในสาขาการเกษตร ประมง ระบบศาลคดีเด็กและเยาวชน สาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือด้านอื่น ๆ ที่ตกลงกัน ๒.๕ ความมั่นคงและการทหาร ได้แก่ การขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาโจรสลัดในมหาสมุทรอินเดีย ปัญหาการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติอื่น ๆ ทั้งนี้ ฝ่ายมัลดีฟส์ประสงค์จะเข้าร่วมในสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (International Law Enforcement Academy : ILEA) ที่กรุงเทพฯ ๒.๖ ความร่วมมือในระดับภูมิภาคและพหุภาคี ได้แก่ ความร่วมมือในการจัดการกับผลกระทบและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการให้ความสำคัญต่อความร่วมมือที่ใกล้ชิดในองค์การสหประชาชาติ และกรอบความร่วมมืออื่น ๆ อาทิ ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับกลุ่มองค์กรความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียใต้ (The South Asian Association for Regional Cooperation : SAARC) รวมทั้งการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน (Human Rights Council : HRC)
|
.....