ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย - เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 2 | นร11 | 19/07/2556 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ (Joint High-level Committee : JHC) เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone : DSEZ) และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องเสนอ สรุปผลการประชุมได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับโครงสร้างการจัดตั้งกลไกการลงทุนระหว่างประเทศในลักษณะของนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) และการจัดตั้งบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด (Dawei SEZ Development Co., Ltd.) โดย SPV จะทำหน้าที่พิจารณาและคัดเลือกข้อเสนอของผู้ที่จะมาลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในรูปของบริษัทเฉพาะกิจ (Special Purpose Company : SPC) ของแต่ละโครงการย่อย รวมทั้งกำกับดูแลภาพรวมการดำเนินงานของโครงการทวายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. ที่ประชุมเห็นชอบร่างสัญญาข้อตกลงผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreemment) ของบริษัท ทวาย เอส อี แซดฯ ซึ่งระบุให้ฝ่ายเมียนมาร์และไทยถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วนเท่ากันผ่านทางสำนักงานพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) สำหรับฝ่ายไทย และกรมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (Foreign Economic Relations Department : FERD) สำหรับฝ่ายเมียนมาร์ ภายใต้ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น ๑๒ ล้านบาท ๓. ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการของร่างข้อตกลง Framework Agreement ฉบับใหม่ ระหว่างบริษัท ทวาย เอส อี แซดฯ กับ DSEZMC และมอบให้คณะทำงานร่วมไทย-เมียนมาร์ จัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปในรายละเอียดของร่างข้อตกลงฯ ภายใต้กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษฉบับใหม่ของเมียนมาร์ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามในร่างข้อตกลงฯ เมื่อเมียนมาร์ผ่านกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษฉบับใหม่เป็นที่เรียบร้อย ๔. ที่ประชุมรับทราบแผนพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอย่างเป็นขั้นตอน โดยระยะเริ่มต้น ๕ ปีแรก (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ (๑) ถนนทางเข้า (Access Road) ขนาด ๒ ช่องทางจราจร เชื่อมต่อโครงการทวายมายังบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี (๒) ท่าเรือขนาดเล็กเพื่อรองรับเรือบรรทุกสินค้าที่ความจุของเรือ ๑๓,๐๐๐ DWT (๓) โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติขนาด ๓๖ เมกะวัตต์ (๔) อ่างเก็บน้ำสำหรับจ่ายน้ำปริมาตร ๓๖,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และ (๕) พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในระยะแรก เช่น อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบให้คณะทำงานร่วมไทย-เมียนมาร์ จัดประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณารายละเอียดของแผนพัฒนาโครงการ พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับบทบาทของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในการดำเนินงานต่อไปในระหว่างที่ SPV ยังอยู่ในช่วงระดมทุน ๕. ที่ประชุมรับทราบแนวทางการกำหนดขอบเขตในบริเวณโครงการทวายใหม่ ตามที่ผู้แทนฝ่ายเมียนมาร์เสนอ ซึ่งสามารถลดผลกระทบด้านจำนวนครัวเรือนที่ต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่ง โดยมอบให้คณะทำงานร่วมไทย-เมียนมาร์จัดประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณารายละเอียดของแผนการดำเนินงานโยกย้ายประชาชน รวมทั้งงบประมาณในการชดเชยและจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อให้กระบวนการได้มาซึ่งที่ดินอยู่ภายใต้งบประมาณที่ควบคุมได้ ๖. ที่ประชุมเห็นชอบให้หน่วยงานจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการอย่างเป็นทางการ และรับทราบข้อเสนอของคณะผู้แทนจากญี่ปุ่นในการจัดประชุมหารือไตรภาคีระหว่างเมียนมาร์ ไทย และญี่ปุ่น โดยฝ่ายเมียนมาร์ได้เน้นย้ำความสำคัญของโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเทียบเท่ากับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา และโครงการทวายยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของเมียนมาร์ พร้อมทั้งระบุขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น (Official Development Assistance : ODA) ทั้งในด้านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าเพื่อการพัฒนาประเทศ และการสนับสนุนทางเทคนิค (Technical Assistance) ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบให้คณะทำงานร่วมไทย-เมียนมาร์เตรียมการในรายละเอียดของประเด็นหารือต่าง ๆ เพื่อจัดประชุมหารือไตรภาคีอย่างเป็นทางการระหว่างเมียนมาร์ ไทย และญี่ปุ่น ในกลางเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ๗. ที่ประชุมเป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาข้อตกลงผู้ถือหุ้น (Shareholders Agreement) ของบริษัท ทวาย เอส อี แซดฯ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญสำหรับขับเคลื่อนโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายต่อไป ๘. ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประชุม JHC ครั้งต่อไปในเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ที่เมียนมาร์ โดยประธานร่วมจะกำหนดวันที่ชัดเจนในภายหลัง
|
||||||||||||||||||
.....
