ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง  | 
									วันที่มีมติ | 
|---|---|---|---|
| 1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี 2556 (ค.ศ. 2013) | พณ | 18/06/2556 | 
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ ๑๙ (The 19th APEC Ministers Responsible for Trade Meeting) ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ เมษายน ๒๕๕๖ ณ เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยประเด็นสำคัญของการประชุม ได้แก่ การสนับสนุนการเจรจาการค้ารอบโดฮาและต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า การบรรลุเป้าหมายโบกอร์ (Attaining the Bogor Goals) และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม (Achieving Sustainable Growth with Equity) รวมทั้งข้อคิดเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการประชุม ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคให้ความสำคัญกับการผลักดันการเจรจาขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ให้ประสบความสำเร็จ ประเทศไทยควรให้การสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อให้การประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ ๙ (9th Ministerial Conference : 9th MC) ประสบความสำเร็จ เพื่อคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและการทำหน้าที่ของ WTO ในการเป็นเวทีเจรจาลดอุปสรรคและข้อกีดกันทางการค้าและจัดทำกฎระเบียบการค้าโลก เป็นเวทีในการยุติข้อพิพาททางการค้า และเป็นกลไกตรวจสอบและทบทวนนโยบายการค้าของประเทศสมาชิก ความสำเร็จของการประชุม 9th MC จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับการเจรจา WTO รอบโดฮา (Doha Development Agenda : DDA) ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปีแล้ว ๑.๒ ข้อเสนอของอินโดนีเซียที่ให้เพิ่มสินค้าจากการเกษตรและป่าไม้ (Agricultural and Forestry-based products) ไว้ใน APEC EG List โดยเฉพาะสินค้าน้ำมันปาล์มดิบ และยางพารา ซึ่งเขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่แสดงท่าทีชัดเจน ไม่สนับสนุนการเพิ่มรายการสินค้าใน APEC EG List อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียยังคงผลักดันเรื่องนี้ และพยายามขอรับการสนับสนุนจากเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ในช่วงระหว่างนี้ เพื่อให้สามารถมีผลลัพธ์ตามที่ตนต้องการในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค (APEC Ministerial Meeting : AMM) และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting : AELM) ที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคม ศกนี้ ณ เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับประเด็นการเพิ่มเติมยางพาราและน้ำมันปาล์มดิบในรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมเอเปค ควรเสนออินโดนีเซียและเอเปคชะลอการดำเนินการในเรื่องนี้ออกไปก่อน เนื่องจากการจัดทำรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมภาคเกษตรควรต้องมีคำจำกัดความที่ชัดเจน ประเด็นความมั่นคงอาหาร ควรสนับสนุนการจัดทำ Road Map เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มีความมั่นคงอาหาร ภายในปี ๒๕๖๓ (ค.ศ. ๒๐๒๐) และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อบรรลุเป้าหมายความมั่นคงอาหารร่วมกัน ประเด็นการจัดทำกรอบความเชื่อมโยงของเอเปค ควรให้มีความสอดคล้องกับแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันของอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity : MPAC) และควรบูรณาการกรอบความเชื่อมโยงระหว่างกันของเอเปคเข้ากับภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและภูมิภาคเอเปคโดยรวม นอกจากนี้ ในแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ๒๕๕๖ มีประเด็นทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลายประการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เห็นควรจัดให้มีการหารือระหว่างหน่วยงานภายในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม/ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีและแนวทางในการทำงานทั้งภายในประเทศ และการทำงานร่วมกับประเทศอื่นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย  | 
											    |||
					.....
									
			