ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ ประจำเดือนมีนาคม 2556 | นร | 28/05/2556 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ๑.๑ ด้านราคาสินค้า ได้แก่ การดำเนินโครงการกำกับดูแลการชั่งตวงวัดและสินค้าหีบห่อเพื่อสร้างความเป็นธรรมในการซื้อขายพลังงานเชื้อเพลิง ผลผลิตทางการเกษตร และสินค้าต่าง ๆ โดยดำเนินการตรวจสอบรวมทั้งสิ้น ๓,๐๑๔,๓๘๔ เครื่อง/หีบห่อ พบผิดจำนวน ๑๐,๘๓๕ เครื่อง/หีบห่อ และการดำเนินโครงการลดค่าครองชีพไทยช่วยไทย โครงการโชห่วยช่วยชาติ “ร้านถูกใจ” โดย ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ มีร้านถูกใจที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๖,๘๘๗ ราย ๑.๒ ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ การรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน ๓๐ บาท/ลิตร การส่งเสริมให้มีการใช้แก๊สโซฮอลเพิ่มขึ้น การตรึงราคาขายปลีก LPG โดยภาคครัวเรือน อยู่ที่ ๑๘.๑๓ บาท/กก. ภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ ๓๐.๑๓ บาท/กก. และภาคขนส่ง ปรับราคาขายปลีก LPG เป็น ๒๑.๓๘ บาท/กก. การคงราคาขายปลีก NGV ที่ ๑๐.๕๐ บาท/กก. (สำหรับประชาชน) ส่วนกลุ่มรถโดยสารสาธารณะที่ลงทะเบียนโครงการบัตรเครดิตพลังงาน ยังคงเติมก๊าซ NGV ในราคา ๘.๕๐ บาท/กก. สำหรับโครงการบัตรเครดิตพลังงาน รถรับจ้างสาธารณะ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๕-มีนาคม ๒๕๕๖ มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น ๖๖,๕๙๒ ราย มีผู้ใช้บัตร จำนวน ๗,๐๐๐ ราย ๒. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค ได้แก่ การพักหนี้หรือลดภาระหนี้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรหรือสถาบันเกษตรกร เป็นระยะเวลา ๓ ปี (ตุลาคม ๒๕๕๕-๓๐ กันยายน ๒๕๕๘) มีผู้ยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ๒,๒๖๕ แห่ง สมาชิก ๘๐๘,๗๙๙ ราย มูลหนี้ ๖๓,๘๖๔.๗๓๓ ล้านบาท การจัดตั้งศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการให้พร้อมจ่ายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพ จำนวน ๗,๓๑๖,๓๐๕ คน เป็นเงิน ๕๓,๘๘๒,๘๖๐,๒๐๐ บาท การดำเนินโครงการบ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก (ร้อยละ ๐ ระยะเวลา ๓ ปี) มีผู้ยื่นกู้ ๑๔,๒๕๓ บัญชี อนุมัติแล้ว ๑๓,๕๒๐ บัญชี คิดเป็นเงิน ๘,๘๒๖.๑๔ ล้านบาท และการดำเนินมาตรการภาษีสำหรับการซื้อรถยนต์คันแรก มียอดอนุมัติการจ่ายเงินคืนตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๕๕-มีนาคม ๒๕๕๖ (ยอดจ่ายจริง) จำนวน ๙๙,๒๖๘ คัน เป็นเงิน ๖,๘๘๙ ล้านบาท ๓. ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้แก่ การออกพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละยี่สิบของกำไรสุทธิ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ๔. ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน (กองทุนหมู่บ้าน SML) ได้แก่ การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชน (SML) โดย ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ได้โอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนตามโครงการฯ รวม ๑๑ ครั้ง จำนวน ๗๑,๕๓๗ หมู่บ้าน/ชุมชน และการดำเนินโครงการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระยะที่ ๓ โดยโอนเงินให้กับกองทุนฯ แล้ว จำนวน ๓๖,๖๔๑ กองทุน จากเป้าหมาย ๗๙,๒๕๕ กองทุน คงเหลือยังไม่ได้โอน จำนวน ๔๒,๖๑๔ กองทุน ๕. ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ได้แก่ บัตรเครดิตสำหรับเกษตรกร ได้มีการอนุมัติบัตรสินเชื่อให้เกษตรกร จำนวน ๒,๗๗๕,๕๑๗ ราย บัตรส่งมอบแล้ว จำนวน ๑,๓๘๓,๑๙๖ ราย วงเงินรวม ๔๓,๖๖๗.๔๘ ล้านบาท การขึ้นทะเบียนเกษตรกรในพืชสำคัญ ๓ ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๕/๒๕๕๖ มีโรงสีสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๘๙๒ โรง เกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๑,๙๙๐,๑๑๓ ราย ปริมาณรับจำนำรวมทั้งสิ้น ๑๒,๐๙๙,๕๕๐ ตัน การดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๕๕/๕๖ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๗๑๙ ราย เปิดจุดรับฝากแล้ว ๖๗๒ จุด ปริมาณรับจำนำรวมทั้งสิ้น ๙,๘๕๗,๗๐๙ ตัน การเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยพิบัติด้านการเกษตร ในกรณีฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง อุทกภัย และวาตภัย รวมทั้งการแก้ไขราคาสินค้าเกษตร ๖. ปฏิรูปการจัดการที่ดิน (นโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ได้แก่ การจัดที่ดิน โดยการมอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ๔-๐๑ แก่เกษตรกร แบ่งเป็นที่ดินทำกิน ๒๐,๘๘๓ ราย พื้นที่ ๒๕๐,๒๖๖ ไร่ และที่ดินชุมชน ๖๒๓ ชุมชน เกษตรกร ๒๐,๕๐๓ ราย พื้นที่ ๑๒,๗๗๒ ไร่ การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ โดยออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน (กสน.๓) ให้แก่สมาชิกนิคมสหกรณ์ ๕๐๑ ราย ๔,๖๑๘ ไร่ และการออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.๕) ให้แก่สมาชิกนิคมสหกรณ์ ๘๖๒ ราย ๙,๑๒๓ ไร่ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีจำนวนราษฎรที่ได้รับการรับรองสิทธิทำกินแล้ว ๒๓,๖๗๖ ราย (ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๕-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖) และดำเนินการรังวัดแปลงที่ดินของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวม ๑๖๕ พื้นที่ ซึ่งผลการพิสูจน์การครอบครองที่ดินของราษฎรพบว่า อยู่ก่อนประกาศเขตป่าไม้ จำนวน ๖๓,๑๑๖ ราย เนื้อที่ ๔๖๙,๗๙๒-๐-๒๑ ไร่ และอยู่หลังประกาศเขตป่าไม้ จำนวน ๘๒,๑๗๐ ราย เนื้อที่ ๘๖๔,๐๙๕-๒-๗๑ ไร่
|
.....