ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ และแนวโน้มปี 2556 | นร11 | 09/04/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และแนวโน้มปี ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ๑.๑ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ ๓.๓ ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ ๖.๗ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (ณ ราคาคงที่) และการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ ๓.๓ และ ๒.๙ ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ ๑๗.๑ และ ๓๒.๒ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ตามลำดับ ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งยังขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ ๙๒.๑ แม้จะชะลอตัวลงจากร้อยละ ๑๐๘.๖ ในเดือนก่อนหน้า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ อยู่ที่ระดับร้อยละ ๗๔.๓ เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ ๗๒.๑ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ๑.๒ การลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ ๙.๕ ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ ๒๒.๒ ในเดือนก่อนหน้า ตามฐานการขยายตัวที่สูงขึ้น โดยการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรชะลอตัวลงตามการหดตัวของการนำเข้าสินค้าทุนร้อยละ ๘.๙ ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ ๑๔.๐ ชะลอตัวลงจากร้อยละ ๓๖.๕ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ส่วนการลงทุนในสิ่งก่อสร้างยังขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ ๑๔.๕ เช่นเดียวกับพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่ขยายตัวร้อยละ ๒๓.๓ ๑.๓ การส่งออกสินค้า มีมูลค่า ๑๗,๗๖๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (๕๒๙,๕๓๐ ล้านบาท) หดตัวลงร้อยละ ๔.๖ เทียบกับการขยายตัวร้อยละ ๑๕.๖ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ เมื่อหักทองคำที่ยังไม่ขึ้นรูปออกแล้ว มูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ ๐.๖ สินค้าส่งออกที่หดตัวลง ได้แก่ ข้าว ยางพารา สินค้าประมง สินค้าเกษตรแปรรูป และทองคำ ในขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมชะลอตัวลง โดยเฉพาะการส่งออกยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ตลาดส่งออกที่ขยายตัว ได้แก่ จีน และออสเตรเลีย ตลาดส่งออกที่หดตัว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ๑.๔ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ ๑.๒ เทียบกับการขยายตัวร้อยละ ๑๐.๒ ในเดือนก่อนหน้าตามฐานการขยายตัวที่สูงขึ้น อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงจากร้อยละ ๖๗.๐ ในเดือนก่อน เป็นร้อยละ ๖๒.๙ อุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ และสิ่งทอ ส่วนอุตสาหกรรมสำคัญที่หดตัว ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม การแปรรูปสัตว์น้ำ เครื่องนุ่งห่ม โทรทัศน์/วิทยุ และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ๑.๕ การผลิตภาคเกษตรกรรม ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ ๐.๒ เทียบกับการขยายตัวร้อยละ ๐.๗ ในเดือนก่อนหน้า เป็นการหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๙ เดือน เนื่องจากผลผลิตข้าวที่มีการเร่งเก็บเกี่ยวไปก่อนหน้า ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังลดลงอย่างต่อเนื่องร้อยละ ๔.๒ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลงร้อยละ ๔.๔ โดยราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ลดลง ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และไก่เนื้อ ส่วนราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ราคาข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และสุกร ๑.๖ ภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ มีจำนวน ๒.๓ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๕.๖ เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับการขยายตัวร้อยละ ๑๒.๕ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัดส่วนสูงสุด คือ นักท่องเที่ยวจากจีน รองลงมา คือ มาเลเซีย รัสเซีย และญี่ปุ่น ๑.๗ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวจากการขาดดุลในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ เป็นการเกินดุล ๑.๘ สถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมกราคม ๒๕๕๖ อยู่ที่ร้อยละ ๔๔.๑ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ๑.๙ สถานการณ์ด้านการเงิน สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ตึงตัวขึ้น จากการขยายตัวของสินเชื่อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินฝากมีการชะลอตัวลง อัตราดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการไหลเข้าสุทธิของเงินทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๖ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ ๔.๕-๕.๕ โดยอุปสงค์ภายในประเทศยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้มากขึ้น และคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ ๒.๕-๓.๕ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๐.๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
|
.....