ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม 2556 และแนวโน้มปี 2556 | นร | 05/03/2556 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๖ และแนวโน้มปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ๑.๑ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ขยายตัวร้อยละ ๖.๘ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งขยายตัวร้อยละ ๑๗.๑ และ ๓๒.๒ ตามลำดับ ในขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ อยู่ที่ระดับ ๗๒.๑ ๑.๒ การลงทุนภาคเอกชน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ขยายตัวร้อยละ ๒๒.๐ โดยปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศและการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวต่อเนื่องตามการขยายตัวของการลงทุนใหม่ เช่นเดียวกับพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่ขยายตัวร้อยละ ๑.๑ ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ ๓๖.๕ ๑.๓ การส่งออกสินค้า ในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ มีมูลค่า ๑๗,๙๒๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๕.๖ โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะการส่งออกยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเกษตรสำคัญ ๆ ที่ขยายตัวได้ดี ประกอบด้วย ข้าว และผลไม้ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกทองคำและยางพารายังคงหดตัว ตลาดส่งออกขยายตัวได้ดีในทุกตลาด โดยตลาดหลักที่ขยายตัว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ๑.๔ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ขยายตัวร้อยละ ๑๐.๑ อุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัวประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ ยานยนต์ เครื่องหนัง และแผงวงจรรวม ในขณะที่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปหดตัวต่อเนื่องร้อยละ ๑๖.๑ และอุตสาหกรรมปิโตรเลียมหดตัวร้อยละ ๑๐.๕ อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ ๖๗.๐ ๑.๕ การผลิตภาคเกษตรกรรม ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ขยายตัวร้อยละ ๐.๘ ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ ๓.๘ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลงร้อยละ ๓.๐ โดยราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ลดลง ประกอบด้วย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย และปศุสัตว์ ส่วนราคาข้าวเปลือกและกุ้งขาว เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๖ และ ๑๒.๐ ตามลำดับ ๑.๖ ภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ มีจำนวน ๒.๒ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๒.๕ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัดส่วนสูงสุด คือ นักท่องเที่ยวจากจีน มีสัดส่วนร้อยละ ๑๓.๘ รองลงมา คือ มาเลเซีย รัสเซีย และญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนร้อยละ ๙.๕ ๘.๙ และร้อยละ ๖.๑ ตามลำดับ ๑.๗ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ และการว่างงานในเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ๑.๘ สถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้และการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ในขณะที่หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ อยู่ที่ร้อยละ ๔๔.๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ๑.๙ สถานการณ์ด้านการเงิน สินเชื่อขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น ในขณะที่เงินฝากชะลอตัว ทำให้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ตึงตัวขึ้นเล็กน้อย อัตราดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว เงินบาทแข็งค่าตามการไหลเข้าสุทธิของเงินทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๔.๕-๕.๕ โดยอุปสงค์ภายในประเทศยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้มากขึ้น โดยคาดว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวร้อยละ ๑๑.๐ การบริโภคของครัวเรือนและการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ ๓.๕ และร้อยละ ๘.๙ ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วงร้อยละ ๒.๕-๓.๕ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๐.๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและสร้างแรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
|
.....