ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย สมัยพิเศษ ในโอกาสการฉลองครบรอบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - อินเดีย และการเยือนสาธารณรัฐประชาชน บังกลาเทศอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 12/02/2556 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย และการเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ ของนายกรัฐมนตรี และให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามตารางติดตามผลการเข้าร่วมการประชุมและผลการเยือนที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียฯ ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมรับรองเอกสารวิสัยทัศน์อาเซียน-อินเดีย (ASEAN-India Vision Statement) เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมือในทศวรรษหน้า โดยจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ได้แก่ ด้านการเมืองและความมั่นคง โดยเฉพาะความมั่นคงทางทะเล การค้าสินค้าบริการและการลงทุน ด้านการเชื่อมโยง การแลกเปลี่ยนด้านสังคมและวัฒนธรรม ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และการส่งเสริมบทบาทของอินเดียเพื่อร่วมพัฒนาอาเซียน ทั้งนี้ ไทยได้เน้นย้ำจุดแข็งในการเป็น land bridge เชื่อมโยงอาเซียนและอินเดีย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจแม่โขง-อินเดีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ๑.๑ การดำเนินการตามกระบวนการภายในเพื่อให้ความตกลงด้านการค้าบริการและการลงทุนอาเซียน-อินเดีย มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑.๒ การพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างกันแบบรอบด้านทั้งทางโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และประชาชน โดยมีความเชื่อมโยงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (digital connectivity) เป็นตัวเร่ง โดยให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นกับทางหลวงสามฝ่ายไทย-เมียนมาร์-อินเดีย และการต่อขยายไปยัง สปป.ลาว และกัมพูชา รวมถึงการสร้างทางหลวงสายใหม่เชื่อมโยงเวียดนาม ๑.๓ การสนับสนุนต่อกองทุนเพื่อความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างอาเซียนและอินเดีย เช่น กองทุนอาเซียน-อินเดีย กองทุนสีเขียวอาเซียน-อินเดีย และกองทุนอาเซียน-อินเดียเพื่อการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.๔ การเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันในด้านความมั่นคง รวมทั้งความมั่นคงรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ การต่อต้านการก่อการร้าย การค้ามนุษย์ ปัญหายาเสพติด ๑.๕ การบูรณาการการจัดเก็บข้อมูลลู่ทางการขยายอุตสาหกรรมไทยในอินเดีย ในการสนับสนุนนักธุรกิจไทยในเรื่องต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียน-อินเดีย และไทย-อินเดีย เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ในการนำเข้าวัตถุดิบและสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย ๒. ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศฯ ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม ความร่วมมือทางวัฒนธรรม วิชาการ และการทหาร การทำงานร่วมกันภายใต้กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค และการสนับสนุนบทบาทซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้งเห็นพ้องเรื่องการเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี การต่ออายุบันทึกความเข้าใจเรื่องการค้าข้าวนึ่ง การสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศ การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเจรจาทำความตกลงเรื่องการส่งแรงงานบังกลาเทศเข้ามาในไทย และการเชิญไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มศึกษาปอกระเจาระหว่างประเทศ และขอให้ไทยพิจารณาเพิ่มการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาจากบังกลาเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับบังกลาเทศ สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ๒.๑ การต่ออายุบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลบังกลาเทศตกลงจะซื้อข้าวนึ่งจากไทยปีละไม่เกินหนึ่งล้านตันเมื่อมีความจำเป็นออกไปอีกสามปี จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๙ การส่งเสริมให้ภาคเอกชนของแต่ละฝ่ายเข้าร่วมงานแสดงสินค้าของแต่ละฝ่ายเพิ่มมากขึ้น การเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มศึกษาปอกระเจาระหว่างประเทศตามคำเชิญของบังกลาเทศ การจัดตั้งคณะทำงานระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของทั้งสองฝ่าย เพื่อขยายความร่วมมือด้านบริการสุขภาพ และอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวบังกลาเทศมารักษาพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น การให้เอกชนไทยเข้ามาลงทุนในสาขาที่ภาคเอกชนไทยมีศักยภาพ การสรรหาแรงงานจากบังกลาเทศมาทำงานในภาคการประมงในไทย การให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการในการศึกษาเชิงลึกเพื่อพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของบังกลาเทศ และพิจารณาแสวงหาโอกาสด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการในบังกลาเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเชิงพุทธศาสนา รวมทั้งการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยลงทุนในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมของไทยขึ้นเป็นการเฉพาะในบังกลาเทศ ๒.๒ การเชื่อมโยงความร่วมมือในระดับภูมิภาคทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก โดยการหารือถึงรูปแบบความร่วมมือในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ ๗ ที่กำหนดจะจัดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และการให้ความสำคัญกับการยกระดับท่าเรือระนองให้สามารถให้บริการด้านโลจิสติกส์ในลักษณะจุดเดียว ๒.๓ การขยายโครงการความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-บังกลาเทศ ๒.๔ การกระชับความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกัน ๒.๕ การยกระดับความร่วมมือด้านการทหาร และการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในด้านการข่าวเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ อาวุธ และยาเสพติด และการก่อการร้าย ๒.๖ การยกระดับความร่วมมือระดับภูมิภาคและทำงานร่วมกันภายใต้กรอบ BIMSTEC, ARF และ ACD การสนับสนุนการสมัครของบังกลาเทศเข้าเป็นสมาชิกในกรอบความร่วมมือ East-West Economic Corridor (EWEC) และความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-คงคา การจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การผลักดันให้การเจรจาความตกลงการค้าเสรีในกรอบ BIMSTEC เสร็จสิ้นโดยเร็ว และการแลกเสียงสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบองค์การสหประชาชาติ และในเวทีระหว่างประเทศอื่น ๆ เช่น UPU Postal Operations Council และ Council of Administration
|
.....