ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ตามนโยบายการบูรณาการระบบประกันสุขภาพของรัฐบาล | อื่นๆ | 08/01/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของพนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ตามนโยบายการบูรณาการระบบประกันสุขภาพของรัฐบาล ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ประธาน สปสช.) เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธาน สปสช. มีดังนี้ ๑.๑ กรณีขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของพนักงานรัฐวิสาหกิจ ๑.๑.๑ เห็นชอบให้คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติม ประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างสำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจให้รองรับการขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของพนักงานรัฐวิสาหกิจให้สามารถรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ใดก็ได้ รวมทั้งสถานพยาบาลเอกชนนอกระบบของตน โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้าตามนโยบายรัฐบาล เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ๑.๑.๒ เห็นชอบให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาลให้กับพนักงานตามนโยบายรัฐบาล ใช้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นหน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาเจ็บป่วยฉุกเฉินและระบบข้อมูลต่าง ๆ (Clearing House) ตามนโยบายรัฐบาล โดย สปสช. สำรองจ่ายเงินค่าบริการให้สถานพยาบาลไปก่อน และให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเร่งแก้ไขหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้รองรับการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินคืนให้ สปสช. ได้ตามอัตราที่ตกลงกันภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง รวมทั้งจัดส่งฐานข้อมูลของบุคคลในสังกัดที่ได้สิทธิรักษาพยาบาลจากรัฐวิสาหกิจให้แก่ สปสช. เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ๑.๒ กรณีขยายสิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินของข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ๑.๒.๑ เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๖๙ และมาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. ๒๔๙๕ มาตรา ๖ และมาตรา ๙๕ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. ๒๕๒๑ และมาตรา ๕ และมาตรา ๘๘ แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้ออกระเบียบไว้ และแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มสิทธิให้ข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นได้สิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลรัฐและเอกชนนอกระบบของตนโดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้าตามนโยบายรัฐบาล เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ๑.๒.๒ เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศไว้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๕ แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้รองรับการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินตามนโยบายรัฐบาล และแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้หน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาและระบบข้อมูลต่าง ๆ (Clearing House) โดยให้ สปสช. สำรองจ่ายเงินค่าบริการให้สถานพยาบาลไปก่อน และให้ อปท. จ่ายเงินคืนให้แก่ สปสช. ตามอัตราที่ตกลงกันภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง รวมทั้งจัดส่งฐานข้อมูลของบุคคลในสังกัดที่ได้สิทธิรักษาพยาบาลให้แก่ สปสช. เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ๒. ให้ สปสช. รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการให้ อปท. จ่ายเงินคืนให้แก่ สปสช. ตามอัตราที่ตกลงกันภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และการจัดส่งฐานข้อมูลของบุคคลในสังกัดที่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลเพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ควรมีการหารือร่วมกันระหว่าง สปสช. กระทรวงมหาดไทย และ อปท. ก่อนที่จะได้มีการดำเนินการ เนื่องจากอาจมีผลกระทบทั้งด้านงบประมาณและขั้นตอนการปฏิบัติได้ นอกจากนี้ ควรเร่งพัฒนากลไกสร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการของโรงพยาบาลเอกชน อาทิ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นว่าสถานประกอบการภาคเอกชนจะได้รับเงินชดเชยในอัตราที่เหมาะสมกับโครงสร้างต้นทุนของการประกอบการ และการให้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการซึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบหนึ่ง เป็นต้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้โรงพยาบาลเอกชนให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอย่างแท้จริง และไม่เป็นภาระแก่โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับการเข้ารับบริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
|
.....