คณะรัฐมนตรีมีมติ
               ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ ดังนี้
                   ๑.๑ การบูรณาการยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) เพื่อเป็นกรอบการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำกรอบการบูรณาการ และแบบฟอร์มเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับกระทรวงและระดับจังหวัด จัดทำรายละเอียดเป้าหมาย แนวทาง ระยะเวลาและงบประมาณ กำหนดหน่วยงานหลัก/หน่วยงานร่วมรับผิดชอบดำเนินการ ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนบูรณาการฯ
                   ๑.๒ ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี ๒๕๕๘ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๕ ซึ่งที่ประชุมมีมติ
                         ๑.๒.๑ มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทบทวน/ยืนยัน ผังการวิเคราะห์ความพร้อมของสินค้าและบริการ และวิเคราะห์ระดับของความพร้อมของสินค้าและบริการที่มีความสำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับจังหวัด ตามแบบฟอร์มที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อเสนอลำดับแผนงาน/โครงการที่มีความสำคัญสูง ระยะเวลาดำเนินการเริ่มต้นและสิ้นสุด วงเงินงบประมาณ ตามแบบฟอร์ม เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เพื่อบูรณาการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป และให้สำนักงบประมาณนำไปใช้ประกอบการพิจารณางบประมาณให้สอดคล้องกับปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งจะพิจารณายุทธศาสตร์ และโครงการลงทุนของทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
                         ๑.๒.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำการวิเคราะห์ตลอดห่วงโซ่การผลิตในสินค้า ๓ รายการ ได้แก่ ปุ๋ย ยานยนต์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป และพิจารณาเป้าหมายการพัฒนาและการดำเนินการที่จะดำเนินการโดยภาครัฐ ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการ และในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างว่าจะเตรียมความพร้อมอย่างบูรณาการได้อย่างไร ทั้งนี้ กระทรวงอื่น ๆ อาจพิจารณาจัดทำเพิ่มเติมได้กระทรวงละ ๑ สินค้า/บริการ
                         ๑.๒.๓ มอบหมายผู้รับผิดชอบหลักดำเนินการใน ๖ ประเด็น และรายงานที่ประชุมต่อไป โดย
                                   ๑.๒.๓.๑ กระทรวงมหาดไทยสำรวจความต้องการของพื้นที่และบริเวณที่ที่การเชื่อมโยงไม่สมบูรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงพื้นที่กับแหล่งการผลิตหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมทั้งการถ่ายทอดยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่
                                   ๑.๒.๓.๒ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ร่วมกับภาคเอกชน
                                   ๑.๒.๓.๓ กระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนาความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และประสานกระทรวงการคลังจัดทำกรอบระยะเวลาการดำเนินการในเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อม
                                   ๑.๒.๓.๔ กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
                                   ๑.๒.๓.๕ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกในเรื่องอัตรากำลังคนภาครัฐ เพื่อใช้ในการวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมทั้งการเตรียมการแก้ไข ปรับปรุง กฎ ระเบียบในการโอนย้ายบุคลากรให้มีความเหมาะสม
                                   ๑.๒.๓.๖ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติบูรณาการงานด้านการศึกษาและวิจัย และเสนอแนะแนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาและวิจัย เพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
                   ๑.๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้สำนักงบประมาณนำไปใช้ประกอบการพิจารณางบประมาณให้สอดคล้องกับปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งจะพิจารณายุทธศาสตร์และโครงการลงทุนของทั้งส่วนกลางและภูมิภาคในเดือนธันวาคม ๒๕๕๕
               ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการและจัดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เพื่อบูรณาการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ ยกเว้นประเด็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการบริหารจัดการน้ำ ให้แก้ไขหน่วยงานรับผิดชอบ จากเดิม “โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบเรื่องการปลูกป่า และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับผิดชอบเรื่องการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำ ๓.๕ แสนล้านบาท” เป็น “โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบเรื่องการปลูกป่า และให้ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยรับผิดชอบเรื่องการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำ ๓.๕ แสนล้านบาท”
             ๓. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลของแผนปฏิบัติการให้มีรายละเอียดที่ครบถ้วน ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการดำเนินงาน (milestones) และผลของการดำเนินงาน (result-based) ด้วย หากหน่วยงานใดมีแผนงาน/โครงการเชื่อมโยงกับเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน (ของกระทรวงคมนาคม) ให้จัดทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เพื่อจะได้บูรณาการในภาพรวมได้อย่างครบถ้วน