ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สรุปสถานการณ์รวมของภูมิอากาศและน้ำท่วมของประเทศไทยประจำสัปดาห์ (ครั้งที่ 7/2555 ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2555) | วท | 09/10/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยสรุปสถานการณ์รวมของภูมิอากาศและน้ำท่วมของประเทศไทย ครั้งที่ ๗/๒๕๕๕ ณ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ดังนี้
๑. สถานการณ์ภูมิอากาศ พายุ “แกมี” (KAEMI) ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามและผ่านประเทศกัมพูชา เข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้วได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวตามร่องมรสุมที่พาดผ่านอยู่บริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก และในช่วงวันที่ ๙-๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และอากาศจะเย็นลง และส่งผลให้ร่องมรสุมจะทวีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ สำหรับปริมาณน้ำฝนในภาพรวมพบว่า ฝนสะสมในทุกภาคสูงกว่าค่าปกติ เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนน้อยกว่าค่าปกติ ๒. สถานการณ์น้ำและน้ำท่วม ดังนี้ ๒.๑ ปริมาณน้ำท่าในบริเวณจุดสำคัญ ได้แก่ ๒.๑.๑ สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ ๑,๓๓๗ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๓,๕๙๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ๒.๑.๒ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ๑,๓๐๒ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๒,๘๔๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ๒.๑.๓ สถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑,๗๐๑ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๓,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดการณ์น้ำท่า ณ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ แม่น้ำปราจีนบุรี สถานี KGT.3 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระดับและปริมาณน้ำล้นตลิ่งลดลง โดยท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบ ลุ่มน้ำอื่น ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ๒.๒ ระดับความสูงของน้ำในแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ ๒..๒.๑ แม่น้ำปิง ที่สถานี P.1 จังหวัดเชียงใหม่ +๓๐๒.๑๓ เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ต่ำกว่าตลิ่ง ๒.๐๗ เมตร ๒.๒.๒ แม่น้ำวัง ที่สถานี W.10A จังหวัดลำปาง +๒๕๙.๔๔ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๖.๑๖ เมตร ๒.๒.๓ แม่น้ำยม ที่สถานี Y.4 จังหวัดสุโขทัย +๔๘.๑๑ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๒.๗๖ เมตร ๒.๒.๔ แม่น้ำน่าน ที่สถานี N.1 จังหวัดน่าน +๑๙๓.๒๗ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๕.๙๓ เมตร ๒.๒.๕ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ +๒๒.๑๘ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๔.๐๒ เมตร และที่สถานี C.13 จังหวัดชัยนาท ระดับน้ำท้ายเขื่อน +๑๒.๖๐ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๓.๗๔ เมตร ๒.๓ น้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ ได้แก่ ๒.๓.๑ เขื่อนภูมิพล น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๓๗.๗๔ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๘,๒๕๒ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๔,๔๕๒ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๒ เขื่อนสิริกิติ์ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๒๔.๐๑ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๖,๔๕๓ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๓,๖๐๓ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๓ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๑๑.๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๖๗๕ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๖๗๒ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๔ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวม ๓๓ อ่างทั่วประเทศ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ รวม ๕๑,๑๘๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ สะสมตั้งแต่ต้นปี ๓๓,๙๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายจากอ่างเก็บน้ำ สะสมตั้งแต่ต้นปี ๔๐,๖๔๓ ล้านลูกบาศก์เมตร และความสามารถในการรับน้ำได้อีก ๑๘,๙๘๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ๓. การบริหารน้ำในเขื่อน ดังนี้ ๓.๑ เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำกักเก็บ ๒๔% ซึ่งมีปริมาณน้ำกักเก็บลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนยังคงน้อยมากวันละไม่ถึง ๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ในระยะสั้นให้ปรับลดการระบายน้ำเพื่อประหยัดน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ๓.๒ เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำกักเก็บ ๙๓% สามารถรับน้ำได้อีกเพียง ๘ ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีฝนตกมากเนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “แกมี” จึงให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำล้นเขื่อนและเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ท้ายเขื่อน ๓.๓ เขื่อนประแสร์และเขื่อนคลองสียัด มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนประแสร์เกินระดับกักเก็บปกติ ส่วนเขื่อนคลองสียัดปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก และคาดว่าในสัปดาห์หน้าเขื่อนทั้งสองจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “แกมี” จึงให้เพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนคลองสียัดเป็นวันละ ๒.๕ ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่เหนือน้ำและท้ายน้ำของเขื่อนทั้งสอง ๓.๔ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ให้คงการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลไม่เกินวันละ ๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์คงการระบายน้ำที่วันละ ๖ ล้านลูกบาศก์เมตร จนถึงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ หลังจากนั้นให้ลดการระบายน้ำลงเหลือวันละ ๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ๓.๕ เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนทั้งสองค่อนข้างมากในสัปดาห์หน้า เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “แกมี” จึงให้เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ ๔๐ ล้านลูกบาศก์เมตร (เขื่อนละ ๒๐ ล้านลูกบาศก์เมตร) ตั้งแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ ๔. สถานการณ์อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง และน้ำป่า ดังนี้ ๔.๑ สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรปราการ รวม ๔๐ อำเภอ ๓๒๓ ตำบล ๒,๐๘๙ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑๐๙,๖๒๓ ครัวเรือน ๒๖๗,๑๔๑ คน ๔.๒ พื้นที่ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นเข้าท่วม ในพื้นที่ ๗ อำเภอ ๕๓ ตำบล ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วม ๖ อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง อำเภอศรีมโหสถ และอำเภอประจันตคาม สำหรับจังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดฝนตกหนักและน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม ในพื้นที่ ๙ อำเภอ ๓๕ ตำบล ๒๕๒ หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขัง ๘ อำเภอ ๓๓ ตำบล ๒๓๖ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอบางคล้า อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอพนมสารคาม อำเภอคลองเขื่อน อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอราชสาส์น และอำเภอสนามชัยเขต) ๔.๓ กรมทรัพยากรน้ำไม่มีรายงานการเตือนภัยสถานการณ์ดินโคลนถล่ม และน้ำป่า ๕. สรุปผลการตรวจราชการจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี และเพชรบุรี ระหว่างวันที่ ๖-๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ติดตามและร่วมประชุมกับจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมรับมือพายุแกมีของจังหวัดภาคตะวันตก ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของหน่วยราชการ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ซึ่งมีความพร้อมในระดับดีไว้วางใจได้ สำหรับประชาชนยังมีขวัญและกำลังใจดี
|
.....