ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 44 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พณ | 09/10/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ ๔๔ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๖-๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศ+๖ เห็นชอบเอกสารว่าด้วยหลักการทั่วไปและวัตถุประสงค์ของการเจรจาการจัดทำภูมิภาคหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) (Guiding Principles and Objectives for Negotiating the Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP Guiding Principles) ซึ่งจะเสนอต่อผู้นำเพื่อพิจารณาประกาศเปิดเจรจา RCEP ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ พร้อมทั้งแจ้งยืนยันที่จะเข้าร่วมประกาศเปิดการเจรจา RCEP ร่วมกับอาเซียน และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจจัดทำแผนงานของการเจรจา RCEP โดยวางกรอบเวลาให้ดำเนินการเจรจาในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ รวมทั้งเร่งรัดให้ทุกฝ่ายร่วมมือจัดทำหลักการทั่วไปว่าด้วยการเจรจาการค้าสินค้าการค้าบริการและการลงทุนให้แล้วเสร็จในโอกาสแรกเพื่อให้ทุกประเทศสามารถประเมินทิศทางการจัดทำ RCEP ในภาพรวมสำหรับการพิจารณาขออนุมัติภายในประเทศเพื่อประกาศเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ ๒. รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ให้การรับรองความตกลงว่าด้วยการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดาของอาเซียน (ASEAN Agreement on the Movement of Natural Persons) โดยมีกำหนดจะลงนามความตกลงฯ ในระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๒๑ ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ส่วนการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ประชุมเห็นควรจัดการในระดับประเทศและคงความร่วมมือในระดับภูมิภาคในบางเรื่อง อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูล แนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ รวมทั้งเห็นว่า ความร่วมมือด้าน SME ควรเป็นประเด็นสำคัญ (priority area) ในการไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) เพื่อลดช่องว่างในการพัฒนาของอาเซียน และพิจารณาโดยคำนึงถึงกรอบแผนงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมของอาเซียน (The ASEAN Framework for Equitable Economic Development : AFEED) ๓. ที่ประชุมขอให้ไทย ลาว และกัมพูชา หารือในเรื่องมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยที่ส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาข้อสรุปและรายงานผลภายในการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๒๑ ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ๔. ที่ประชุมเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินการ AFEED และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไขทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค รวมทั้งเห็นว่ายังมีอุปสรรคที่ท้าทายหลายประการ อาทิ กลไกการดำเนินงานและเงินทุน จึงตกลงให้มีการวางแนวทางที่ครอบคลุมในการดำเนินการตาม AFEED และพิจารณาการจัดการหารือเรื่องนี้โดยเฉพาะต่อไป ๕. ความคืบหน้าในการสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ๕.๑ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ให้การรับรองเอกสาร ๒ ฉบับ ได้แก่ ร่างแผนการดำเนินงานภายใต้ปฏิญญาร่วมระหว่างอาเซียนและแคนาดาด้านการค้าและการลงทุนปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๘ และร่างแผนงานความร่วมมืออาเซียน-รัสเซียด้านการค้าและการลงทุน โดยแผนงานฯ ทั้งสองฉบับจะใช้เป็นกรอบและทิศทางการดำเนินความร่วมมือในการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ ๕.๒ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนเห็นชอบให้จัด AEM Road Show ไปยังประเทศจีน โดยมอบหมายให้ไทยในฐานะประธานฝ่ายอาเซียนประสานในรายละเอียดกับจีน นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนจะมีการลงนามพิธีสาร ๒ ฉบับ ได้แก่ พิธีสารฉบับที่ ๓ เพื่อแก้ไขกรอบความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน-จีน และพิธีสารเพื่อผนวกข้อบทด้านอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (TBT) และข้อบทด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงด้านการค้าสินค้า สำหรับประเด็นที่ฮ่องกงสนใจเข้าร่วมเป็นภาคีในความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน อาเซียนตกลงให้แต่ละประเทศพิจารณาประเมินผลกระทบอย่างละเอียดเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๑๙ ในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ๕.๓ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและญี่ปุ่นได้รับรองแผนงานยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ระยะ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๕) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเป็นสองเท่าภายใน ๑๐ ปี ๕.๔ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและอินเดียพยายามจะหาข้อสรุปการเจรจาเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนให้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะสามารถแถลงการณ์สรุปการเจรจาได้ในระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ ๒๑ โดยอาเซียนจะเสนอให้อินเดียพิจารณาข้อเสนอใหม่ของอาเซียนในเรื่องการเปิดเสรีการค้าบริการและการเงิน |
.....