ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สรุปสถานการณ์รวมของภูมิอากาศและน้ำท่วมของประเทศไทยประจำสัปดาห์ (ครั้งที่ 6/2555 ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2555) | นร | 02/10/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยสรุปสถานการณ์รวมของภูมิอากาศและน้ำท่วมของประเทศไทย ครั้งที่ ๖/๒๕๕๕ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ดังนี้
๑. สถานการณ์ภูมิอากาศ พายุไต้ฝุ่น "เจอลาวัต" (JELAWAT) ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ และมีแนวโน้มว่าจะแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามใกล้เมืองดานัง และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ ๖-๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ สำหรับในช่วงวันที่ ๑-๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ ร่องมรสุมเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนลดลง และจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันที่ ๗-๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ทั้งปริมาณและการกระจายโดยเฉพาะพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง แลภาคใต้ จากอิทธิพลของพายุที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามและเคลื่อนตัวผ่านประเทศกัมพูชาเข้าสู่ประเทศไทยในบริเวณภาคตะวันออก สำหรับปริมาณน้ำฝนในภาพรวมพบว่า ฝนสะสมในทุกภาคสูงกว่าค่าปกติ เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนน้อยกว่าค่าปกติ ๒. สถานการณ์น้ำและน้ำท่วม ดังนี้ ๒.๑ ปริมาณน้ำท่าในบริเวณจุดสำคัญ ได้แก่ ๒.๑.๑ สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ ๑,๒๗๓ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๓,๕๙๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ๒.๑.๒ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ๑,๓๔๔ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๒,๔๘๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ๒.๑.๓ สถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑,๕๗๖ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่ความจุลำน้ำ ๓,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดการณ์น้ำท่า ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ แม่น้ำปราจีนบุรี สถานี KGT.3 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระดับและปริมาณน้ำล้นตลิ่งและมีแนวโน้มทรงตัว และสถานีด้านท้ายน้ำที่สถานี KGT.1 อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี แนวโน้มทรงตัว ลุ่มน้ำอื่น ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ๒.๒ ระดับความสูงของน้ำในแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ ๒..๒.๑ แม่น้ำปิง ที่สถานี P.1 จังหวัดเชียงใหม่ +๓๐๒.๐๙ เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ต่ำกว่าตลิ่ง ๒.๑๑ เมตร ๒.๒.๒ แม่น้ำวัง ที่สถานี W.10A จังหวัดลำปาง +๒๕๙.๕๖ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๖.๐๔ เมตร ๒.๒.๓ แม่น้ำยม ที่สถานี Y.4 จังหวัดสุโขทัย +๔๗.๗๖ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๓.๑๑ เมตร ๒.๒.๔ แม่น้ำน่าน ที่สถานี N.1 จังหวัดน่าน +๑๙๓.๑๐ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๖.๑๐ เมตร ๒.๒.๕ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ +๒๒.๐๒ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๔.๑๘ เมตร และที่สถานี C.13 จังหวัดชัยนาท ระดับน้ำท้ายเขื่อน +๑๒.๗๔ ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง ๓.๖๐ เมตร ๒.๓ น้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ ได้แก่ ๒.๓.๑ เขื่อนภูมิพล น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๓๔.๓๖ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๘,๐๑๑ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๔,๒๑๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๒ เขื่อนสิริกิติ์ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๑๗.๔๖ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๖,๓๔๖ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๓,๔๙๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๓ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ ๒๐.๖๐ ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ ๖๒๑ ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้การได้จริง ๖๑๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒.๓.๔ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รวม ๓๓ อ่างทั่วประเทศ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ รวม ๕๐,๓๔๗ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ สะสมตั้งแต่ต้นปี ๓๒,๓๓๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายจากอ่างเก็บน้ำ สะสมตั้งแต่ต้นปี ๓๙,๙๑๗ ล้านลูกบาศก์เมตร และความสามารถในการรับน้ำได้อีก ๑๙,๘๓๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ๓. การบริหารน้ำในเขื่อน ดังนี้ ๓.๑ เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำกักเก็บเพียง ๒๕% ต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี และคาดการณ์ว่าสิ้นฤดูฝน ๒๕๕๕ จะเหลือปริมาณน้ำกักเก็บเพียง ๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ในระยะสั้นให้ปรับลดการระบายเพื่อประหยัดน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง สำหรับระยะยาวให้กรมชลประทาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มผู้ใช้น้ำ ร่วมกันวางแผนทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๖ ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน ๓.๒ เขื่อนปากมูล ให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยประสานไปยังคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล ในการพิจารณาปิดบานระบายน้ำที่เขื่อนปากมูลเร็วกว่ากำหนดประมาณ ๑ เดือน เพื่อรักษาปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำของเขื่อนปากมูลไว้สำหรับฤดูแล้งปี ๒๕๕๖ ๓.๓ เขื่อนประแสร์และเขื่อนคลองสียัด ให้เฝ้าระวังและติดตามปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเพิ่มเติมรวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่เหนือน้ำและท้ายน้ำของเขื่อนทั้งสอง ๓.๔ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ให้ปรับลดการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลลงเหลือไม่เกินวันละ ๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นไม่เกินวันละ ๔ ล้านลูกบาศก์เมตร จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และอาจปรับการระบายเพิ่มขึ้นอีกเป็นไม่เกินวันละ ๖ ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งว่าอัตราการระบายน้ำที่วันละ ๔ ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำยังคงขุ่นและส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชัง ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา ร่วมกันวางแผนแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างจริงจัง และให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยติดตามความก้าวหน้าแผนการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ๔. สถานการณ์อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง และน้ำป่า ดังนี้ ๔.๑ จังหวัดระยอง ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอแกลง ตำบลทุ่งควายกิน ๔.๒ จังหวัดชลบุรี ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่อำเภอบางละมุง ตำบลบางละมุง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๕๐ หลังคาเรือน อพยพประชาชนไปอยู่ที่เทศบาลเมืองบางละมุง ๒๐๐ คน ๔.๓ สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๑๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี รวม ๔๒ อำเภอ ๒๙๐ ตำบล ๑,๗๖๓ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๗๕,๕๒๓ ครัวเรือน ๑๗๙,๐๗๔ คน สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดราชบุรี สตูล สุราษฎร์ธานี พังงา และระนอง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ๔.๔ พื้นที่ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นเข้าท่วม ในพื้นที่ ๗ อำเภอ ๕๕ ตำบล ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วม ๕ อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง และอำเภอศรีมโหสถ สำหรับจังหวัดสระแก้ว ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก มีพื้นที่ประสบภัย ๙ อำเภอ ๖๒ ตำบล ๕๖๗ หมู่บ้าน ๑๕,๘๔๘ ครัวเรือน ๔๒,๘๐๕ คน ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอเมืองสระแก้ว แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู และจังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดฝนตกหนักและน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม ในพื้นที่ ๖ อำเภอ ๒๖ ตำบล ๑๕๒ หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์ระดับตลิ่ง ๒.๓๐ เมตร สูงกว่าตลิ่ง ๐.๐๓ เมตร ๔.๕ กรมทรัพยากรน้ำได้เตือนภัยสถานการณ์น้ำป่า ณ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๕ เตือนภัยสีเหลือง (เตือนภัย) ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ แพร่ และพังงา และเตือนภัยสีเขียว (เฝ้าระวัง) ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพังงา ๕. สรุปผลการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและระบบป้องกันและการแก้ไขปัญหาการสไลด์ของเขื่อนดินในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ในวันอาทิตย์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ พบปัญหาฝนตกเป็นปริมาณมากในพื้นที่เหนือนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่งผลให้เขื่อนดินของคลองลำแตงโมที่สร้างมาแล้วปริมาณ ๓๐ ปี และมีเส้นทางผ่ากลางพื้นที่ของนิคมฯ เกิดสไลด์ทำให้มีน้ำไหลเข้าพื้นที่นิคมฯ น้ำท่วมผิวจราจรสูงสุดประมาณ ๒๐ เซนติเมตร แต่ไม่มีน้ำท่วมในบริเวณโรงงานอุตสาหกรรม ในการนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเข้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการปิดคลองลำแตงโม และดำเนินการซ่อมแซมเขื่อนดินที่สไลด์และเร่งสูบน้ำออก ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีระบบในช่วงที่ยังมีน้ำฝนในปริมาณมากต่อไปอีกระยะหนึ่ง ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยสั่งการให้กรมชลประทานรับผิดชอบพื้นที่นิคมฯ โดยให้เน้นไม่ให้มีน้ำเข้ามาเพิ่มเติม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรับผิดชอบพื้นที่ในนิคมฯ และประชาชนโดยรอบ และกรุงเทพมหานครรับผิดชอบพื้นที่ด้านล่างของนิคมฯ ในเรื่องการระบายน้ำ
|
.....