ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - สาธารณรัฐอาร์เมเนีย | คค | 18/09/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบบันทึกข้อตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอาร์เมเนีย ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอาร์เมเนีย และร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอาร์เมเนีย รวม ๓ ฉบับ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สาระสำคัญของบันทึกข้อตกลงฯ คณะผู้แทนของสาธารณรัฐอาร์เมเนียแจ้งว่า ตนไม่มีอำนาจเต็มในการลงนามในร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศและบันทึกความเข้าใจ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงให้นำความตกลงดังกล่าวไปขอความเห็นชอบต่อไป ๑.๒ สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๒.๑ ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ทั้งสองฝ่ายตกลงจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างกัน โดยสาระสำคัญส่วนใหญ่เป็นไปตามร่างมาตรฐานไทย ๑.๒.๒ ใบพิกัดเส้นทางบิน ทั้งสองฝ่ายตกลงให้ใบพิกัดเส้นทางบินที่ระบุไว้ในภาคผนวกของความตกลงฯ เป็นดังนี้ ฝ่ายไทย จุดต่าง ๆ ในไทย-จุดต่าง ๆ ในอาร์เมเนีย ฝ่ายอาร์เมเนีย จุดต่าง ๆ ในอาร์เมเนีย-จุดต่าง ๆ ในไทย ๑.๒.๓ ความจุความถี่ของบริการ ทั้งสองฝ่ายตกลงให้สายการบินที่กำหนดของแต่ละฝ่ายสามารถทำการบินได้ ๒ เที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยอากาศยานแบบใด ๆ ๑.๒.๔ สิทธิรับขนการจราจร ทั้งสองฝ่ายตกลงให้สายการบินที่กำหนดของแต่ละฝ่ายมีสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๓ และ ๔ ได้อย่างเต็มที่ ๑.๒.๕ การทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายตกลงระบุข้อบทเรื่องการทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน ๑.๓ สาระสำคัญของร่างความตกลงฯ ๑.๓.๑ สายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายจะมีโอกาสอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ในอันที่จะรับขนโดยบริการที่ตกลงซึ่งการจราจรที่รับขึ้นในอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่ง และขนลงในอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งหรือกลับกัน และจะถือว่าการจราจรที่รับขึ้นหรือขนลงในอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งไปยังและมาจากจุดต่าง ๆ ในเส้นทางมีลักษณะเป็นการจราจรเพิ่มเติมในการจัดความจุเพื่อการรับขนการจราจรที่รับขึ้นในอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง และขนลง ณ จุดต่าง ๆ ในเส้นทางที่ระบุหรือกลับกัน สายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ปฐมมูลของสายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งในการเจรจาเช่นนั้น ๑.๓.๒ กฎหมายและข้อบังคับของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่ง ซึ่งใช้บังคับกับการเข้ามาและการออกจากอาณาเขตของตนของอากาศยานซึ่งใช้ในการเดินอากาศระหว่างประเทศ หรือเที่ยวบินของอากาศยานเช่นว่านั้น เหนืออาณาเขตนั้น จะใช้บังคับแก่สายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ๑.๓.๓ โดยสอดคล้องกับสิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ภาคีผู้ทำความตกลงยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ภาระหน้าที่ของตนซึ่งกันและกันที่จะรักษาความปลอดภัยของการบินพลเรือนจากการกระทำอันเป็นการแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงฉบับนี้ โดยไม่เป็นการจำกัดสิทธิและภาระหน้าที่ของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ภาคีผู้ทำความตกลงจะต้องกระทำโดยสอดคล้องกับข้อบัญญัติแห่งอนุสัญญาว่าด้วยความผิดและการกระทำอื่นบางประการที่กระทำบนอากาศยาน ลงนามที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ค.ศ. ๑๙๖๓ ฯลฯ ๑.๓.๔ ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายอาจร้องขอให้มีการปรึกษาหารือในเวลาใด ๆ เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยที่คงไว้โดยภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ ลูกเรือการบิน อากาศยาน และการปฏิบัติการบินของอากาศยาน การปรึกษาหารือเช่นว่านี้จะต้องมีขึ้นภายในสามสิบวันนับแต่ที่มีการร้องขอ ๑.๓.๕ ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะกำหนดสายการบินสายหนึ่งหรือหลายสาย เพื่อความมุ่งประสงค์ในการดำเนินบริการที่ตกลง การกำหนดนั้นให้กระทำโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างเจ้าหน้าที่การเดินอากาศของภาคีผู้ทำความตกลงทั้งสองฝ่าย ๑.๓.๖ ภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินการ หรือพักการใช้สิทธิที่ระบุในข้อ ๒ แห่งความตกลงฉบับนี้ โดยสายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง หรือตั้งบังคับเงื่อนไขตามที่ตนเห็นว่าจำเป็นแก่การใช้สิทธิเช่นว่านั้น สิทธิเช่นว่านั้น จะใช้ได้ต่อเมื่อได้มีการปรึกษาหารือกับภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่งแล้วเท่านั้น ๑.๓.๗ ใบสำคัญสมควรเดินอากาศ ใบสำคัญความสามารถ และใบอนุญาตที่ภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่งออกให้หรือกระทำให้สมบูรณ์ ในระหว่างระยะเวลาที่มีผลใช้ได้ จะได้รับการยอมรับนับถือจากภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าข้อกำหนดในการออกให้หรือกระทำให้สมบูรณ์ซึ่งใบสำคัญหรือใบอนุญาตเช่นว่านั้น จะต้องเท่าเทียมกัน เหนือกว่ามาตรฐานขั้นต่ำ ซึ่งอาจกำหนดขึ้นตามอนุสัญญา ๑.๓.๘ อากาศยานที่ใช้ดำเนินบริการระหว่างประเทศโดยสายการบินที่กำหนดสายหนึ่ง (หรือหลายสาย) ของภาคีผู้ทำความตกลงฝ่ายหนึ่ง ตลอดจนเครื่องบริภัณฑ์ปกติของตนซึ่งอยู่บนอากาศยาน เชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น และพัสดุอากาศยาน รวมทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ ซึ่งอยู่บนอากาศยานนั้นจะได้รับการยกเว้นค่าอากรหรือภาษีทั้งปวงเมื่อนำเข้ามาในอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่า เครื่องบริภัณฑ์ซึ่งอยู่บนอากาศยาน สัมภาระ และพัสดุอากาศยานนั้น ต้องอยู่บนอากาศยานจนกระทั่งถูกนำกลับออกไป ๑.๓.๙ พิกัดอัตราค่าขนส่งซึ่งสายการบินที่กำหนดแต่ละสายเรียกเก็บในการรับขนส่งไปยังและมาจากอาณาเขตของภาคีผู้ทำความตกลงอีกฝ่ายหนึ่ง จะต้องกำหนดในระดับที่มีเหตุผลสมควรโดยคำนึงถึงปัจจัยทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน กำไรอันสมควร ลักษณะของแต่ละบริการและบรรดาพิกัดอัตราที่เรียกเก็บโดยสายการบินอื่น ๆ ๑.๓.๑๐ ความตกลงฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบโดยภาคีผู้ทำความตกลงแต่ละฝ่ายตามกระบวนการทางกฎหมายของตน และจะมีผลใช้บังคับในวันที่มีการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันความเห็นชอบนั้น ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อให้มีการลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ และร่างความตกลงฯ และแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตระหว่างกันต่อไป หลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบบันทึกข้อตกลงฯ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ และร่างความตกลงฯ ดังกล่าวแล้ว
|
.....