ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าระหว่างเวียดนามและไทย ครั้งที่ 1 | พณ | 28/08/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee-JTC) ระหว่างเวียดนามและไทย ครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อให้มีการทำงานอย่างบูรณาการและเกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การทบทวนการค้าสองฝ่าย ทั้งสองฝ่ายรับทราบแนวโน้มการขยายตัวการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามและไทยที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับการไปสู่เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ๑.๒ เป้าหมายการค้าเวียดนาม-ไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวทางการค้าประมาณร้อยละ ๒๐ ต่อปี ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๘ และตกลงที่จะจัดระดับความสำคัญของสาขา (Sector) สินค้าและบริการที่มีศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ๑.๓ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎระเบียบผ่านช่องทางภาครัฐ และการจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสิทธิอันพึงมีจากความตกลงในกรอบอาเซียน และการส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนในการสร้างเครือข่ายธุรกิจภายใต้บรรยากาศการทำธุรกิจในภูมิภาคที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมทั้งเห็นควรให้มีการจัดตั้งสายด่วน (hotline) โดยแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับรัฐมนตรี ระดับปลัดกระทรวง และระดับอธิบดี เพื่อเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาการค้าการลงทุนระดับทวิภาคีที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนบุคลากรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกันในนโยบายการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม (VIETTRADE) และกรมส่งเสริมการส่งออกในการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการ การจับคู่และสร้างเครือข่ายธุรกิจ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ตกลงที่จะมีความร่วมมือด้านการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและการประเมินราคาศุลกากร ๑.๔ ความร่วมมือข้าวและมันสำปะหลัง ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งผู้ประสานงานความร่วมมือข้าวระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ระดับผู้ส่งออก และระดับชาวนา โดยใช้แนวทางความร่วมมือในกรอบ ACMECS เป็นฐานในการขยายรูปแบบความร่วมมือข้าว ประกอบด้วย ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ได้แก่ กรมนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งเวียดนาม และกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระดับผู้ส่งออก ได้แก่ สมาคมอาหารเวียดนามและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และระดับชาวนา ได้แก่ สหภาพชาวนาเวียดนามและสมาคมชาวนาไทย ทั้งนี้ ฝ่ายเวียดนามรับพิจารณาข้อเสนอของไทยในเรื่องการจัดตั้ง “สมาพันธ์โรงสีข้าวและผู้ค้าข้าวแห่งอาเซียน” และ “สมาพันธ์ผู้ค้ามันสำปะหลังแห่งอาเซียน” และเห็นด้วยต่อข้อเสนอความร่วมมือเรื่องข้าวของไทย โดยเห็นว่าขอบเขตของความร่วมมือเรื่องข้าว ควรประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ การส่งออก (export) และการผลิต (production) พร้อมทั้งยินดีให้ไทยเป็นผู้นำในการเสนอแนวทางและกลไกความร่วมมือฯ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป ๑.๕ ความร่วมมือภาคเอกชน ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดตั้งสภาธุรกิจเวียดนาม-ไทย และเห็นควรให้มีการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเลียม และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยจะหารือรายละเอียดมาตรการที่เกี่ยวข้องในการประชุม JTC ครั้งต่อไป ๑.๖ เรื่องอื่นๆ ที่ประชุมรับทราบนโยบายการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของเวียดนามในเมืองกวางจิ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของทั้งสองประเทศตกลงที่จะร่วมมือกัน โดยฝ่ายไทยยินดีที่จะเข้าไปลงทุนในสาขาดังกล่าว ส่วนฝ่ายเวียดนามได้ขอให้ไทยพิจารณาจัดการประชุมสามฝ่าย (ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม) เรื่องการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเส้นทางหมายเลข ๙ (ลาวบาว-สะหวันนะเขต-มุกดาหาร) หรือ East-West Economic Corridor (EWEC) ซึ่งฝ่ายไทยรับจะพิจารณาจัดการประชุมดังกล่าว ณ จังหวัดชายแดนของไทย โดยจะแจ้งผลให้ฝ่ายเวียดนามทราบในโอกาสต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามผลการประชุม JTC ครั้งที่ ๑ เพื่อให้สามารถรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat-JCR) ครั้งที่ ๒ ในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว และเห็นควรบูรณาการความร่วมมือกับภาคีการพัฒนาทุกภาคส่วนภายใต้ข้อกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและเกิดเอกภาพในการปฏิบัติสู่ผลสัมฤทธิ์ นอกจากนี้ เห็นควรให้ความสำคัญและติดตามการดำเนินงานความร่วมมือด้านการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะความร่วมมือข้าวระหว่างไทยและเวียดนาม การติดตามด้านการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนไทยในเวียดนามในธุรกิจพลังงานเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนจากแหล่งถ่านหินคุณภาพดีในจังหวัดกวางจิ การพิจารณาผลักดันการพัฒนาความร่วมมือทางการค้า/การจำหน่าย มากกว่าการแข่งขันเพื่อตัดราคาสินค้าเกษตร และการวิจัยพัฒนาการผลิตร่วมกัน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการจัดตั้งสมาพันธ์ผู้สีข้าวและผู้ค้าข้าวอาเซียน และสมาพันธ์ผู้ค้ามันสำปะหลังอาเซียน รวมทั้งการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของ สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตเดินรถในเส้นทาง EWEC และส่วนที่ขยายตามร่างบทเพิ่มเติมฯ ทั้งในเรื่องรายละเอียดของแนวเส้นทางและจุดแวะพักรถ กฎระเบียบที่สำคัญของแต่ละประเทศ และการประกันภัย ซึ่งรวมถึงการประกันภัยบุคคลที่สาม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....