ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เรื่อง การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาชั้นสอบสวน | สว | 21/08/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา พร้อมข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ กับผลการดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เรื่อง การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาชั้นสอบสวน และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป โดยในส่วนของข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่ารัฐบาลควรเร่งให้มีการตรากฎหมายเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาชั้นสอบสวนเพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป โดยมีข้อสังเกต ดังนี้
๑. หากกำหนดให้กระบวนการไกล่เกลี่ยเป็นภารกิจของหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยเฉพาะ จะทำให้การไกล่เกลี่ยมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธิ์มากขึ้น หรือไม่ ๒. หากในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผู้กระทำความผิดให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิด ไม่ว่าจะด้วยประสงค์ให้ข้อพิพาทนั้นยุติโดยเร็วหรือเป็นผู้กระทำความผิดที่แท้จริงก็ตาม คำให้การรับสารภาพดังกล่าวจะถือเป็นคำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนแล้วนำไปเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้หรือไม่ อย่างไร ๓. ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเนื้อหาในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีทั้งส่วนของการไกล่เกลี่ยคดีอาญาชั้นสอบสวนและมาตรการชะลอฟ้องในชั้นพนักงานอัยการรวมกัน โดยที่กำหนดให้พนักงานอัยการสามารถใช้ดุลยพินิจในผลของการไกล่เกลี่ยคดีอาญาได้ด้วย จะทำให้ร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์หรือไม่ ๔. กรณีของการไกล่เกลี่ยหากมีกรณีที่คณะกรรมการอำนวยการไกล่เกลี่ยลงนามไว้ก่อน โดยติดภารกิจไม่สามารถร่วมประชุมได้อาจเป็นประเด็นให้คู่กรณีโต้แย้งว่าการไกล่เกลี่ยกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายได้ ๕. ความผิดอันยอมความได้เป็นความผิดที่คู่กรณีสามารถตกลงกันโดยไม่ดำเนินคดีต่อไปตามกฎหมายโดยไม่มีขั้นตอนใดรองรับ หากนำคดีความผิดอันยอมความได้และความผิดลหุโทษมาเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยจะเป็นการเพิ่มขั้นตอนและสร้างภาระแก่คู่กรณีได้ ๖. ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาททุกประเภทสามารถไกล่เกลี่ยได้จะทำให้มีการบิดเบือนจากเจตนาเป็นประมาท ๗. ควรกำหนดให้มีการชดใช้ค่าเสียหายเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งอาจกระทำได้ในรูปของการทำงานที่สร้างสรรค์แก่ชุมชน การทำงานบริการสังคม หรือการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในร่างพระราชบัญญัตินี้ ๘. ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้กระทำความผิดที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อป้องกันการไกล่เกลี่ยซ้ำ ๙. ควรกำหนดให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยมากกว่านี้ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันบุคคลเหล่านี้เป็นผู้มีความน่าเชื่อถือในชุมชนบางท้องที่อย่างยิ่ง จะส่งผลให้หลักกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันทน์ในร่างพระราชบัญญัตินี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๑๐. ควรมีการกำหนดให้ตั้งข้อรังเกียจคณะกรรมการอำนวยการไกล่เกลี่ยได้และกำหนดให้คณะกรรมมการสามารถสละสิทธิในการเป็นกรรมการได้ ๑๑. ควรมีกระบวนการสอดส่องดูแลคุณธรรมจริยธรรมของคณะกรรมการอำนวยการไกล่เกลี่ยและผู้ไกล่เกลี่ยที่ชัดเจนกว่านี้ ๑๒. ควรจะต้องเปิดโอกาสให้คู่พิพาทมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยดังกล่าวได้ด้วย
|
.....