ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี 2012 | พณ | 30/07/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ ๑๙ The 18th APEC Minister Responsible for Trade Meeting) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔ - ๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ เมืองคาซาน สหพันธรัฐรัสเซีย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมฯ ได้มีการหารือในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนการเจรจาการค้ารอบโดฮา และต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและการขยายการค้า (Trade and Investment Liberalization, Regional Economic Integration) การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร (Strengthening Food Security) การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ (Establishing Reliable Supply Chain) และความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของนวัตกรรม (Intensive Cooperation to Foster Innovative Growth) ๑.๒ ข้อคิดเห็นของกระทรวงพาณิชย์ ๑.๒.๑ การเจรจาพหุภาคีขององค์การการค้าโลก (WTO) รอบโดฮาได้ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ ๑๑ ปีแล้ว และขณะนี้อยู่ในภาวะชะงักงัน ปัจจุบัน WTO มีสมาชิก ๑๕๕ ประเทศ ซึ่งการเจรจาตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ใน WTO จะใช้ระบบฉันทามติ (consensus) ทำให้การเจรจามีความล่าช้ามาก ดังนั้น กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วใน WTO ที่เป็นสมาชิกเอเปค เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ หันมาใช้เวทีเอเปค ซึ่งมีสมาชิกเพียง ๒๑ เขตเศรษฐกิจ ในการผลักดันให้การเจรจาเรื่องต่าง ๆ มีความคืบหน้าก่อน จากนั้นจึงนำไปผลักดันในเวที WTO ต่อไป เช่น การผลักดันให้มีการเจรจาขยายขอบเขตสินค้าภายใต้ความตกลงว่าด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Agreement : ITA) และการผลักดันให้สินค้าใช้แล้วที่นำมาผลิตใหม่ (Remanufactured Products) ได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับสินค้าใหม่ เป็นต้น ๑.๒.๒ เอเปคได้ดำเนินการเพื่อผลักดันการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อมุ่งเป้าหมายระยะยาวของการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia - Pacific : FTAAP) ในอนาคต การเจรจาเรื่องต่าง ๆ จึงมีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น การจัดทำรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมของเอเปค การคัดเลือกประเด็นการค้าการลงทุนมิติใหม่ ตลอดจนการสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเสริมนโยบายนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ไม่เลือกปฏิบัติ และขับเคลื่อนโดยกลไกตลาด เป็นต้น ๑.๒.๓ ประเด็นเรื่องการจัดทำรายการสินค้าสิ่งแวดล้อมของเอเปคเพื่อนำมาลดภาษีให้เหลือร้อยละ ๕ หรือต่ำกว่า ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๕) เป็นประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกมีท่าทีที่แตกต่างกัน ระหว่างสองขั้วใหญ่ ได้แก่ จีนกับสหรัฐฯ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ระดับเจ้าหน้าที่หารือเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายให้จัดทำรายการสินค้าฯ ให้เสร็จก่อนการประชุมผู้นำเอเปค ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ที่เมืองวลาดิวอสต๊อก ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ที่ระบุเป้าหมายและกำหนดเวลาในการดำเนินการในหลายประเด็น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับหน่วยราชการหลายหน่วยงาน จึงเห็นควรประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้หน่วยราชการที่รับผิดชอบสามารถดำเนินการตามเป้าหมายและกรอบเวลาที่กำหนดไว้ การสงวนท่าทีการนำเสนอสินค้าเกษตรไว้ในรายการสินค้าและบริการสิ่งแวดล้อม (Environmental Goods and Services : EGS) การต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า (Protectionism) การเจรจาเชิงรุกในเรื่องการลดหรือขจัดมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและอาหาร การผลักดันให้ได้ข้อสรุปของคำจำกัดความของสินค้าสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการกำหนดรายการสินค้าสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าสิ่งแวดล้อมของเอเปค ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....