ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 26/06/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับร่างมาตรา ๕/๑ วรรคท้ายที่กำหนดว่า “การดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนต้องสอดคล้องกับโครงการบริหารงานภาครัฐที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนด” ทำให้คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนไม่มีความเป็นอิสระ ทั้ง ๆ ที่องค์การมหาชนไม่ได้อยู่ภายในระบบราชการ ส่วนร่างมาตรา ๕/๒ (๓) เกี่ยวกับการกำหนดให้มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรกำหนดคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่น้อยกว่า ๒ คน ให้คัดเลือกจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งหรือผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ประธานกรรมการ หรือกรรมการขององค์การมหาชนหรือรัฐวิสาหกิจ ผู้อำนวยการองค์การมหาชน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย และร่างมาตรา ๕/๑๐ การกำหนดหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ควรให้มีหน้าที่หรืออำนาจที่เกี่ยวกับ “การพัฒนาหรือส่งเสริมองค์การมหาชน” เพื่อให้การดำเนินงานขององค์การมหาชนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ ให้เพิ่มเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นกรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ มีดังนี้ ๑.๑ แก้ไขคำนิยามคณะกรรมการองค์การมหาชน โดยตัดคำว่าคณะกรรมการบริหารออกเพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลของการบริหารองค์การที่คณะกรรมการทำหน้าที่ควบคุมดูแลองค์การมหาชนให้ดำเนินกิจการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ส่วนการบริหารเป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการ ๑.๒ กำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนรับผิดชอบในการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อวางนโยบาย มาตรการ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้ง คุณลักษณะของกรรมการและผู้อำนวยการ การบริหารงาน การพัฒนา รวมทั้งการจัดตั้งและยุบเลิกองค์การมหาชนต่อคณะรัฐมนตรี ๑.๓ กำหนดให้องค์ประกอบของคณะกรรมการของแต่ละองค์การมหาชนมีจำนวนตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง แต่ต้องไม่เกินสิบเอ็ดคน และจะต้องมีกรรมการซึ่งไม่เป็นข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการ ๑.๔ กำหนดห้ามมิให้กรรมการขององค์การมหาชนเป็นกรรมการในองค์การมหาชนในเวลาเดียวกันเกินกว่าสามแห่ง และห้ามมิให้กรรมการขององค์การมหาชนเป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนในเวลาเดียวกัน ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น ๑.๕ เพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการขององค์การมหาชนซึ่งมิใช่กรรมการโดยตำแหน่ง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การสรรหาที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนพิจารณากำหนด ๑.๖ กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานขององค์การมหาชนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ๑.๗ กำหนดให้ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อำนวยการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ๑.๘ กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่จำเป็นของผู้อำนวยการขององค์การมหาชน และเพิ่มเติมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ๑.๙ กำหนดให้เจ้าหน้าที่และลูกจ้างขององค์การมหาชนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีเสรีภาพในการรวมกลุ่มตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการประเมินองค์การมหาชนโดยรวมที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกแห่งและการประเมินตามประเภทขององค์การมหาชนที่มีเจตนารมณ์ในการจัดตั้งแตกต่างกัน และควรพัฒนาระบบการติดตามประเมินผลองค์การมหาชนให้เชื่อมโยงกับระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการมาใช้ให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น ตลอดจนประสานกับสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางในการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจขององค์การมหาชนได้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปดำเนินการด้วย |
.....